สวัสดีครับน้องๆ และคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน ทีมงาน TidMor1 เข้าใจดีเลยครับว่าช่วงใกล้สอบเข้า ม.1 เป็นช่วงเวลาที่ทั้งน้องๆ และคุณพ่อคุณแม่ต่างก็ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่ น้องๆ บางคนอาจจะตั้งใจอ่านหนังสือมากจนบางครั้งรู้สึกว่า “สมองตื้อไปหมดแล้วพี่!” หรือบางทีก็เริ่มง่วง เริ่มล้า จนอ่านต่อไม่ไหวแล้วใช่ไหมครับ?
คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะกังวลว่าลูกจะอ่านหนังสือได้ไม่เต็มที่ หรือเหนื่อยเกินไป แต่ในขณะเดียวกันก็อยากให้ลูกประสบความสำเร็จ พี่ๆ TidMor1 อยากบอกว่าความรู้สึกเหล่านี้เป็นเรื่องปกติมากครับ เพราะสมองของเราก็เหมือนกับกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ในร่างกาย ที่ทำงานหนักมากๆ ก็ต้องมีเวลาให้ได้พักบ้าง ถึงจะฟื้นฟูและทำงานได้ดีขึ้น
บทความนี้ พี่ๆ จะชวนน้องๆ และคุณพ่อคุณแม่มาทำความเข้าใจว่าทำไมการพักระหว่างอ่านหนังสือจึงสำคัญต่อสมองของเราอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ใช่แค่การหยุดพักเฉยๆ นะครับ แต่มันคือส่วนหนึ่งของ “เทคนิคการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ” ที่จะช่วยให้น้องๆ อ่านหนังสือได้อย่างสนุก ไม่เหนื่อยล้าเกินไป และที่สำคัญคือจำเนื้อหาได้แม่นยำขึ้นเยอะเลยล่ะครับ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วไปดูกันเลย!
สมองของเราทำงานอย่างไรเมื่อเราอ่านหนังสือ?
ก่อนอื่นเลย เรามาทำความรู้จักกับสมองของเราเล็กน้อยกันดีกว่าครับ ลองจินตนาการว่าสมองของเราเหมือนกับ “คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลัง” เครื่องหนึ่ง มันรับข้อมูลใหม่ๆ เข้ามาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นจากสิ่งที่อ่าน สิ่งที่เห็น สิ่งที่ได้ยิน หรือสิ่งที่กำลังเรียนรู้ เมื่อเราอ่านหนังสือ สมองจะทำงานอย่างหนักเพื่อประมวลผล ทำความเข้าใจ และจัดเก็บข้อมูลเหล่านั้น
น้องๆ เคยสังเกตไหมครับว่า เวลาเราอ่านหนังสือไปนานๆ ตาเราอาจจะยังมองตัวหนังสืออยู่ แต่สมองเรากลับคิดเรื่องอื่น หรือบางทีก็อ่านไปแล้วแต่จำไม่ได้ว่าอ่านอะไรไปบ้าง นั่นเป็นเพราะว่าสมองของเราก็มีขีดจำกัดในการรับข้อมูลในแต่ละช่วงเวลาครับ ถ้าเราใส่ข้อมูลเข้าไปเรื่อยๆ โดยไม่มีการหยุดพัก สมองก็เหมือนกับฮาร์ดดิสก์ที่เต็มแล้ว ประมวลผลไม่ทัน หรือทำงานช้าลงไปนั่นเองครับ
การพักระหว่างอ่านหนังสือจึงเป็นเหมือนการกดปุ่ม "รีสตาร์ท" หรือ "จัดระเบียบข้อมูล" ให้กับสมอง ทำให้มันมีเวลาได้พัก ได้เรียบเรียงสิ่งที่เพิ่งเรียนรู้ไป และเตรียมพร้อมที่จะรับข้อมูลใหม่ๆ เข้ามาอีกครั้งอย่างมีประสิทธิภาพ
5 เหตุผลสำคัญที่ทำไมเราต้องพักระหว่างอ่านหนังสือ
การหยุดพักไม่ได้แปลว่าเราขี้เกียจ หรือเสียเวลาอ่านหนังสือน้อยลงเลยนะครับ แต่มันคือการลงทุนเพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นต่างหาก ลองมาดูเหตุผลหลักๆ ที่พี่อยากให้น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญกับการพักระหว่างอ่านหนังสือกันครับ
- ช่วยให้สมาธิดีขึ้น: สมองของคนเรามีช่วงเวลาที่สามารถโฟกัสกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ดีที่สุดอยู่จำกัดครับ โดยเฉพาะในเด็กวัยประถมปลายและมัธยมต้น ซึ่งสมาธิอาจจะยังไม่ยาวนานเท่าผู้ใหญ่ การที่เราพักเบรกจะช่วย "รีเซ็ต" สมาธิ ทำให้น้องๆ กลับมาโฟกัสกับหนังสือได้ดีขึ้นหลังจากพักครับ
- เพิ่มประสิทธิภาพการจำ: เวลาที่เราพัก สมองจะไม่ได้หยุดทำงานเฉยๆ นะครับ แต่เป็นช่วงเวลาที่สมองจะนำข้อมูลที่เพิ่งเรียนรู้ไปมา "ประมวลผล" และ "จัดเก็บ" ลงในความจำระยะยาว หรือที่เราเรียกว่า "Consolidation" การพักจึงเป็นหัวใจสำคัญของการจำเนื้อหาได้แม่นยำและคงทนครับ
- ลดความเหนื่อยล้าของสมองและร่างกาย: การอ่านหนังสือติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ไม่เพียงแต่ทำให้สมองล้าเท่านั้น แต่ยังทำให้ตาเมื่อย คอแข็ง ปวดหลัง หรือมีอาการปวดหัวได้ด้วย การลุกขึ้นมาขยับตัว หรือพักสายตา จะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของร่างกายและสมองได้เป็นอย่างดี
- ป้องกันภาวะสมองล้า (Burnout): น้องๆ หลายคนอาจจะเคยรู้สึกว่า "อ่านไปเยอะมาก แต่ทำไมยังไม่เข้าใจเลย" นั่นอาจเป็นสัญญาณของภาวะสมองล้า หรือ Burnout ได้ครับ ซึ่งหากเป็นมากๆ อาจจะทำให้น้องๆ รู้สึกท้อแท้ ไม่อยากอ่านหนังสืออีกต่อไป การพักระหว่างอ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันปัญหานี้ได้ครับ
- เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหา: เมื่อเราพัก สมองจะมีโอกาสได้เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ที่เรียนรู้มาเข้าด้วยกันโดยไม่รู้ตัว บางครั้งปัญหาที่คิดไม่ตกตอนอ่านหนังสือ พอได้พักแล้วกลับมาคิดใหม่ ก็จะเจอทางออกได้ง่ายขึ้น เพราะสมองได้มีเวลาประมวลผลและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ครับ
เทคนิคการพักระหว่างอ่านหนังสือที่สมองชอบ
แล้วเราจะพักระหว่างอ่านหนังสืออย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดล่ะครับ? ไม่ใช่แค่การหยุดอยู่เฉยๆ แต่ต้องพักอย่างมีคุณภาพด้วยนะ พี่ๆ มีเทคนิคดีๆ มาแนะนำครับ
1. เทคนิค Pomodoro: พักสั้นๆ แต่บ่อยครั้ง
นี่คือเทคนิคที่ได้รับความนิยมมาก และพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงครับ ชื่อ "Pomodoro" มาจากภาษาอิตาลีที่แปลว่ามะเขือเทศ เพราะผู้คิดค้นใช้ Timer รูปมะเขือเทศนั่นเอง
- อ่านหนังสือ 25 นาที: ตั้งเวลาจับเวลาอ่านหนังสือแบบเต็มที่ ไม่วอกแวก
- พัก 5 นาที: เมื่อครบ 25 นาที ให้พักทันที ห้ามอ่านต่อเด็ดขาด!
- ทำซ้ำ 4 รอบ: เมื่ออ่านครบ 4 รอบ (รวมเป็น 100 นาทีอ่าน + 15 นาทีพัก)
- พักยาว 15-30 นาที: ให้พักยาวๆ เพื่อให้สมองได้พักอย่างเต็มที่ก่อนจะเริ่มรอบใหม่
น้องๆ อาจจะปรับเวลาให้เหมาะสมกับตัวเองได้นะครับ บางคนอาจจะถนัดอ่าน 45 นาที พัก 10 นาที ก็ได้เช่นกัน สิ่งสำคัญคือต้องอ่านอย่างตั้งใจในช่วงเวลาที่กำหนด และพักอย่างจริงจังเมื่อถึงเวลาพักครับ
2. กิจกรรมระหว่างพัก: พักแบบไหนดีที่สุด?
การพักที่ดีไม่ใช่การเปลี่ยนจากอ่านหนังสือไปเล่นเกมมือถือหนักๆ หรือดูทีวีนานๆ ทันทีนะครับ เพราะกิจกรรมเหล่านั้นอาจจะทำให้สมองไม่ได้พักอย่างเต็มที่ แถมยังอาจจะไปกระตุ้นสมองในส่วนที่ทำให้เราเหนื่อยล้าต่อได้อีก ลองเปลี่ยนมาทำสิ่งเหล่านี้ดูสิครับ
- ลุกขึ้นเดิน ยืดเส้นยืดสาย: การขยับร่างกายจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น ทำให้รู้สึกสดชื่น ลองเดินไปเข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำ หรือเดินวนไปมาในห้องสัก 2-3 นาทีก็เพียงพอแล้วครับ
- พักสายตา: มองออกไปนอกหน้าต่าง มองวิวสีเขียวๆ หรือหลับตาสักครู่ ช่วยลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อตาที่ทำงานหนักจากการจ้องตัวหนังสือ
- ฟังเพลงเบาๆ สบายๆ: เพลงบรรเลง หรือเพลงที่มีจังหวะผ่อนคลาย ช่วยให้จิตใจสงบ และเตรียมพร้อมสำหรับการเรียนรู้ครั้งต่อไป
- ดื่มน้ำเปล่า: การดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญมาก สมองต้องการน้ำเพื่อทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การขาดน้ำเพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลต่อสมาธิได้
- กินของว่างที่มีประโยชน์: เช่น ผลไม้ โยเกิร์ต หรือถั่วเล็กน้อย ช่วยเติมพลังงานให้สมอง
- พูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ หรือพี่น้องสั้นๆ: การได้เปลี่ยนบรรยากาศและพูดคุยเรื่องทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับการเรียน ช่วยผ่อนคลายและลดความเครียดได้
3. สร้างตารางเวลาการพักให้ชัดเจน
น้องๆ อาจจะลองวางแผนการพักไปพร้อมกับการวางแผนการอ่านหนังสือเลยครับ เช่น ถ้าวันนี้จะอ่านวิชาวิทยาศาสตร์ 2 ชั่วโมง ก็กำหนดเลยว่าจะพักช่วงไหนบ้าง และจะพักนานแค่ไหน การมีตารางเวลาที่ชัดเจนจะช่วยให้น้องๆ มีวินัยในการพัก และไม่รู้สึกผิดว่ากำลังเสียเวลา
คุณพ่อคุณแม่ก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยน้องๆ จัดตารางเวลาการพักระหว่างอ่านหนังสือ และเตือนให้น้องๆ ได้พักผ่อนอย่างเหมาะสมด้วยนะครับ อาจจะชวนไปทำกิจกรรมเบาๆ ด้วยกันในช่วงพัก เช่น เดินเล่นในสวน หรือช่วยงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้
ข้อควรระวังในการพักระหว่างอ่านหนังสือ
แม้ว่าการพักจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็มีบางสิ่งที่น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่ควรระวังครับ
- พักนานเกินไป: การพักที่ดีควรสั้นและกระชับ เพื่อให้สมองได้รีเซ็ตและกลับมาโฟกัสได้ง่าย หากพักนานเกินไป อาจจะทำให้ยากที่จะกลับมาอ่านต่อ และทำให้เสียเวลาได้ครับ
- เปลี่ยนไปทำกิจกรรมที่ใช้สมองหนักๆ: เช่น เล่นเกมมือถือที่ต้องใช้สมาธิสูง หรือดูวิดีโอที่มีเนื้อหาซับซ้อน สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ช่วยให้สมองพัก แต่เป็นการเปลี่ยนไปทำงานอีกแบบหนึ่ง ซึ่งอาจทำให้สมองล้าได้ไม่ต่างกัน
- รู้สึกผิดกับการพัก: น้องๆ หลายคนอาจจะรู้สึกว่าการพักคือการเสียเวลา หรือรู้สึกผิดที่ไม่ได้อ่านหนังสือ แต่พี่อยากให้น้องๆ เปลี่ยนมุมมองใหม่ครับว่าการพักคือส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ ถ้าเราพักอย่างถูกวิธี มันจะช่วยให้น้องๆ อ่านหนังสือได้ดีขึ้นและเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิมอีกครับ
บทสรุป: พักเป็น พักได้ พักแล้วดี!
น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่คงเห็นแล้วใช่ไหมครับว่าการพักระหว่างอ่านหนังสือนั้นสำคัญแค่ไหน ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการผ่อนคลาย แต่คือกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้น้องๆ เรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จำเนื้อหาได้แม่นยำขึ้น ลดความเหนื่อยล้า และที่สำคัญคือป้องกันไม่ให้สมองเบิร์นเอาต์ จนพาลไม่อยากอ่านหนังสือไปเลย
พี่อยากให้น้องๆ ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กับการอ่านหนังสือของตัวเองดูนะครับ อาจจะเริ่มต้นจากเล็กๆ น้อยๆ เช่น การลองใช้เทคนิค Pomodoro หรือแค่พักสายตาทุก 20-30 นาที แล้วลองสังเกตดูว่าการเรียนรู้ของน้องๆ ดีขึ้นอย่างไรบ้าง คุณพ่อคุณแม่ก็เป็นกำลังใจสำคัญให้น้องๆ ด้วยนะครับ ช่วยกันสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สมดุลและมีความสุข
จำไว้นะครับว่า "สมองที่ได้พักอย่างเพียงพอ คือสมองที่พร้อมจะเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่" พี่ๆ ทีมงาน TidMor1 ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนประสบความสำเร็จในการเตรียมสอบเข้า ม.1 และสนุกกับการเรียนรู้นะครับ!
และหากการวางแผนนี้ทำให้น้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าการตะลุยโจทย์วิทยาศาสตร์คือสิ่งสำคัญ ทีมงาน TidMor1 ขอแนะนำ "ข้อสอบเข้า ม.1 วิทยาศาสตร์ 3,000 ข้อ" ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสร้างความคุ้นเคยกับแนวข้อสอบที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ TidMor1.com นะครับ