เทคนิคอ่านหนังสือวันละ 2 ชั่วโมงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

เขียนโดย: ทีมงาน TidMor1 | เผยแพร่เมื่อ: 10 ตุลาคม 2568

เตรียมสอบเข้า ม.1 เทคนิคอ่านหนังสือ การจัดการเวลา

สวัสดีครับน้องๆ ป.6 และคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน พี่ๆ ทีมงาน TidMor1 เข้าใจดีเลยว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ทั้งตื่นเต้นและกดดันใช่ไหมครับ? ไหนจะต้องเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 เนื้อหาก็เยอะแยะไปหมด เวลาเรียนที่โรงเรียนก็แน่น ไหนจะการบ้านอีก แค่คิดก็ท้อแล้วใช่ไหมล่ะครับ หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเวลา 24 ชั่วโมงมันช่างน้อยนิดเหลือเกิน

แต่เชื่อไหมครับว่า เราไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือแบบหามรุ่งหามค่ำเสมอไป แค่มีเวลาคุณภาพวันละ 2 ชั่วโมงก็เพียงพอที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมหาศาลแล้ว! บทความนี้พี่ๆ จะมาแชร์ “แผนที่ลับ” ที่จะเปลี่ยนการ อ่านหนังสือ 2 ชั่วโมงให้มีประสิทธิภาพ สูงสุด ทำน้อยแต่ได้มาก อ่านแล้วเข้าหัว จำได้แม่น พร้อมลุยทุกสนามสอบ ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มปลดล็อกศักยภาพในตัวน้องๆ กันเลยครับ!

ทำไม “แค่ 2 ชั่วโมง” ถึงเพียงพอและทรงพลัง?

ก่อนอื่นเลย พี่อยากให้น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่เปลี่ยนความคิดที่ว่า “ยิ่งอ่านนาน ยิ่งดี” ไปก่อนครับ เพราะหัวใจสำคัญไม่ได้อยู่ที่ ปริมาณ แต่อยู่ที่ คุณภาพ ของการอ่านต่างหาก การนั่งจมอยู่กับกองหนังสือนาน 5-6 ชั่วโมง แต่ใจลอยไปถึงเกมหรือซีรีส์เรื่องโปรด อาจจะไม่ได้อะไรเลย สู้เรามาโฟกัสกับการ อ่านหนังสือ 2 ชั่วโมงให้มีประสิทธิภาพ แบบเต็มร้อยดีกว่า

สมองของคนเราก็เหมือนกล้ามเนื้อครับ มันไม่สามารถทำงานหนักต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ได้ มันต้องการการพักผ่อนเพื่อจัดระเบียบข้อมูลและฟื้นฟูพลังงาน การอ่านหนังสือแบบเข้มข้นในระยะเวลาสั้นๆ จะช่วยให้สมองมีสมาธิและจดจ่อได้ดีกว่า ซึ่งนำไปสู่การจดจำและความเข้าใจที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะครับ

ขั้นตอนที่ 1: วางรากฐานสู่ความสำเร็จ เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเปิดตำรา

การเตรียมตัวที่ดีก็เหมือนกับการติดกระดุมเม็ดแรก ถ้าติดถูก เม็ดต่อๆ ไปก็จะง่ายขึ้นเยอะเลย การอ่านหนังสือก็เช่นกันครับ ก่อนที่เราจะเริ่มจับเวลา 2 ชั่วโมง เรามาสร้างบรรยากาศและเตรียมความพร้อมกันก่อนดีกว่า

1. จัดสภาพแวดล้อมให้เป็น "เขตปลอดสิ่งรบกวน" (Distraction-Free Zone)

สิ่งรบกวนคือศัตรูตัวฉกาจของสมาธิครับ ลองหา "มุมอ่านหนังสือประจำ" ของตัวเอง ที่เงียบสงบ มีแสงสว่างเพียงพอ โต๊ะเป็นระเบียบเรียบร้อย และที่สำคัญที่สุด... จัดการกับ "สมาร์ทโฟน" ครับ! พี่แนะนำให้เอาไปวางไว้อีกห้องหนึ่งเลย หรือปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด แค่นี้ก็จะช่วยเพิ่มสมาธิได้อย่างมหาศาลแล้ว

2. ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ที่ชัดเจนในแต่ละวัน

การบอกตัวเองว่า "วันนี้จะอ่านหนังสือ 2 ชั่วโมง" มันกว้างเกินไปครับ ลองเปลี่ยนเป็นการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและทำได้จริง เช่น "วันนี้จะอ่านวิชาวิทยาศาสตร์บทที่ 3 เรื่องระบบสุริยะให้จบ และทำแบบฝึกหัดท้ายบท 15 ข้อ" การมีเป้าหมายที่ชัดเจนเหมือนการมีภารกิจในเกม มันทำให้เรารู้ว่าต้องทำอะไร และรู้สึกดีเมื่อทำสำเร็จด้วยนะ

3. เตรียมอุปกรณ์ให้ครบถ้วน

ก่อนเริ่มอ่าน ควรเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ สมุดจด ปากกา ดินสอ ไฮไลต์สีต่างๆ และที่ขาดไม่ได้คือน้ำดื่ม การเตรียมของให้พร้อมจะช่วยให้น้องๆ ไม่ต้องลุกไปหาของระหว่างอ่าน ซึ่งเป็นการทำลายสมาธิโดยไม่จำเป็นครับ

ขั้นตอนที่ 2: สูตรลับแบ่งเวลา 2 ชั่วโมงให้คุ้มค่าทุกนาที

เอาล่ะ! เมื่อเราเตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็มาถึงหัวใจของบทความนี้กันเลย นั่นคือวิธีบริหารจัดการเวลา 2 ชั่วโมงให้เกิดประโยชน์สูงสุด พี่ๆ ขอแนะนำเทคนิคที่โด่งดังและได้ผลจริงทั่วโลก นั่นคือ “เทคนิค Pomodoro” หรือเทคนิคมะเขือเทศนั่นเองครับ

1. ใช้สูตรมหัศจรรย์ “Pomodoro” (25 นาทีอ่าน + 5 นาทีพัก)

เทคนิคนี้ง่ายมากๆ ครับ คือการแบ่งเวลาอ่านหนังสือออกเป็นช่วงสั้นๆ เพื่อรักษาระดับสมาธิให้สูงอยู่เสมอ สำหรับการอ่าน 2 ชั่วโมง (120 นาที) เราจะแบ่งได้เป็น 4 รอบพอดี ดังนี้ครับ:

  • รอบที่ 1: อ่านอย่างเต็มที่ 25 นาที จากนั้นพัก 5 นาที
  • รอบที่ 2: กลับมาอ่านอีก 25 นาที แล้วพักอีก 5 นาที
  • รอบที่ 3: อ่านต่ออีก 25 นาที และพักอีก 5 นาที
  • รอบที่ 4: อ่านเป็นครั้งสุดท้าย 25 นาที และหลังจากรอบนี้ให้รางวัลตัวเองด้วยการพักยาว 15-30 นาที

การทำแบบนี้จะช่วยให้สมองไม่เหนื่อยล้าจนเกินไป และการมีช่วงพักคอยอยู่ก็ทำให้เรารู้สึกว่าการอ่านหนังสือไม่ใช่งานที่หนักหนาสาหัสครับ

2. ช่วง “อ่าน” (25 นาที): อ่านแบบ “เชิงรุก” (Active Reading)

ใน 25 นาทีของการอ่าน เราต้องทำให้มันมีคุณภาพที่สุด ไม่ใช่แค่การกวาดสายตาผ่านตัวอักษรไปเฉยๆ แต่ต้องเป็นการ อ่านเชิงรุก ซึ่งทำได้หลายวิธีครับ:

  • ตั้งคำถามกับตัวเอง: ขณะที่อ่าน ลองถามตัวเองว่า "ใจความสำคัญของย่อหน้านี้คืออะไร?" "ทำไมผลลัพธ์ถึงเป็นแบบนี้?"
  • ขีดเส้นใต้หรือไฮไลต์: เน้นเฉพาะ ใจความสำคัญจริงๆ ไม่ใช่ไฮไลต์ทั้งหน้า! การเลือกไฮไลต์จะบังคับให้สมองเราคิดและสรุปไปในตัว
  • จดโน้ตย่อ: สรุปเนื้อหาที่อ่านด้วยภาษาของตัวเองสั้นๆ ไว้ข้างๆ หรือในสมุดโน้ต จะช่วยให้จำได้ดีขึ้นมาก

3. ช่วง “พัก” (5 นาที): ชาร์จพลังสมองให้ถูกวิธี

ช่วงพัก 5 นาทีนี้สำคัญมากนะครับ แต่ต้องพักให้ถูกวิธีด้วย! ห้ามหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเด็ดขาด เพราะมันจะดึงสมาธิเราไปหมดและทำให้ไม่อยากกลับมาอ่านต่อ สิ่งที่ควรทำคือ:

  • ลุกขึ้นยืน ยืดเส้นยืดสาย
  • เดินไปดื่มน้ำ หรือเข้าห้องน้ำ
  • มองออกไปนอกหน้าต่าง พักสายตา
  • หายใจเข้าลึกๆ ผ่อนคลายสมอง

การพักแบบนี้จะช่วยให้สมองได้รีเฟรชและพร้อมสำหรับรอบต่อไปอย่างเต็มที่ครับ

ขั้นตอนที่ 3: ตอกย้ำความจำ ทำให้ความรู้ติดหนึบหลังอ่าน

หลังจากที่ อ่านหนังสือ 2 ชั่วโมงให้มีประสิทธิภาพ จบลงแล้ว งานของเรายังไม่เสร็จนะครับ ขั้นตอนต่อไปคือการทำให้ความรู้เหล่านั้นอยู่กับเราไปนานๆ ซึ่งมีเทคนิคทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยได้จริงอยู่ 2-3 อย่างครับ

1. Active Recall: เทคนิค “ดึงข้อมูล” ออกจากหัว

แทนที่จะอ่านซ้ำไปซ้ำมา ลองเปลี่ยนมาใช้วิธี Active Recall หรือการ "เรียกคืนความจำเชิงรุก" ดูครับ หลังจากอ่านจบแต่ละหัวข้อ ให้ลองปิดหนังสือ แล้วพยายามพูดสรุปเนื้อหาที่เพิ่งอ่านไปออกมาดังๆ หรือเขียนสรุปจากความจำล้วนๆ การทำแบบนี้เหมือนเป็นการบังคับให้สมองไป "ดึง" ข้อมูลออกมา ซึ่งจะทำให้เส้นประสาทที่เก็บความจำนั้นแข็งแรงขึ้น จำได้แม่นขึ้นเยอะเลยครับ

2. Spaced Repetition: การทบทวนซ้ำในเวลาที่เหมาะสม

เคยเป็นไหมครับ อ่านวันนี้ พรุ่งนี้ลืม? นั่นเป็นเรื่องปกติของสมองครับ เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยเทคนิค Spaced Repetition หรือการทบทวนแบบเว้นระยะ คือแทนที่จะทบทวนถี่ๆ ในวันเดียว ให้เราเว้นระยะห่างออกไป เช่น:

  • ทบทวนครั้งที่ 1: ภายใน 24 ชั่วโมงหลังอ่านจบ
  • ทบทวนครั้งที่ 2: ภายใน 3 วันถัดมา
  • ทบทวนครั้งที่ 3: ภายใน 1 สัปดาห์ถัดมา

การทบทวนแบบนี้จะส่งสัญญาณให้สมองรู้ว่า "ข้อมูลนี้สำคัญนะ ต้องจำระยะยาว!" เป็นวิธีเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 ที่ได้ผลดีมากๆ ครับ


เห็นไหมครับว่าการ อ่านหนังสือ 2 ชั่วโมงให้มีประสิทธิภาพ นั้นไม่ยากเลย แค่เราต้องมีวินัยและทำอย่างถูกวิธีเท่านั้นเอง พี่ๆ อยากให้น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่มองว่านี่คือการสร้างนิสัยที่ดีเพื่ออนาคต ไม่ใช่แค่การอ่านหนังสือเพื่อสอบ แต่คือการเรียนรู้วิธีเรียนรู้ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดที่จะติดตัวน้องๆ ไปตลอดชีวิตครับ

เส้นทางสู่การสอบเข้า ม.1 อาจจะมีอุปสรรคบ้าง มีวันที่ท้อบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ขอให้น้องๆ อย่าเพิ่งยอมแพ้นะครับ พี่ๆ ทีมงาน TidMor1 ขอเป็นกำลังใจให้เสมอ และเชื่อมั่นว่าน้องๆ ทุกคนมีความสามารถที่จะไปถึงฝันได้อย่างแน่นอน สู้ๆ นะครับ!

และหากการวางแผนนี้ทำให้น้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าการตะลุยโจทย์วิทยาศาสตร์คือสิ่งสำคัญ ทีมงาน TidMor1 ขอแนะนำ "ข้อสอบเข้า ม.1 วิทยาศาสตร์ 3,000 ข้อ" ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสร้างความคุ้นเคยกับแนวข้อสอบที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ TidMor1.com นะครับ