"โอ๊ย! ทำไมเนื้อหาวิชานี้มันเยอะขนาดนี้" "อ่านเท่าไหร่ก็ไม่เข้าหัวเลย" "เมื่อวานเพิ่งท่องไป วันนี้ลืมหมดแล้ว!"... เสียงบ่นแบบนี้เป็นเรื่องที่พี่ๆ ทีมงาน TidMor1 ได้ยินบ่อยมากๆ ทั้งจากน้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 และจากคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นห่วง
ความรู้สึกท้อแท้กับการท่องจำข้อมูลมหาศาลเป็นเรื่องธรรมดามากๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นลำดับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์, ชื่อธาตุในตารางธาตุ, หรือคำศัพท์ภาษาอังกฤษมากมาย แต่จะดีแค่ไหน... ถ้าเรามี "ไม้กายสิทธิ์" ที่สามารถเปลี่ยนเรื่องน่าเบื่อเหล่านี้ให้กลายเป็นเรื่องสนุกเหมือนดูการ์ตูนหรืออ่านนิยายผจญภัย? วันนี้พี่ๆ จะมาแนะนำสุดยอดเคล็ดลับที่เรียกว่า เทคนิคการจำด้วยการสร้างเรื่องราว (Storytelling) ซึ่งเป็นวิธีที่จะเปลี่ยนน้องๆ ให้กลายเป็นนักจำชั้นเซียนได้เลย!
ทำไมสมองของเราถึงชอบ "เรื่องเล่า" มากกว่าการท่องจำ?
เคยสงสัยกันไหมครับว่าทำไมเราถึงจำเนื้อเรื่องของหนังที่ดูเมื่อ 5 ปีที่แล้วได้แม่น แต่กลับลืมสูตรคูณที่เพิ่งท่องไปเมื่อวาน? นั่นก็เพราะสมองของเราไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เป็นตู้เก็บเอกสารที่คอยจัดเรียงข้อมูลแบบแห้งๆ แต่สมองเราทำงานเหมือนเครือข่ายใยแมงมุมที่ซับซ้อน มันชอบเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ เข้าด้วยกัน
การท่องจำแบบ "นกแก้วนกขุนทอง" เป็นการใช้สมองแค่ส่วนเล็กๆ แต่เมื่อเราใช้ เทคนิคการจำด้วยการสร้างเรื่องราว (Storytelling) สมองจะถูกกระตุ้นหลายส่วนพร้อมกัน ทั้งส่วนของจินตนาการ, อารมณ์, และการเชื่อมโยงเหตุผล เรื่องราวมันมีทั้งตัวละคร, มีจุดเริ่มต้น, มีปัญหา, และมีบทสรุป ซึ่งทั้งหมดนี้สร้าง "ตะขอ" เกี่ยวข้อมูลไว้ในความทรงจำของเราได้แน่นแฟ้นกว่าการท่องเป็นบรรทัดๆ เยอะเลยครับ
เริ่มต้นสร้างเรื่องราวของตัวเอง: 4 ขั้นตอนง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้
ฟังดูน่าสนุกแล้วใช่ไหมล่ะ? การสร้างเรื่องราวเพื่อช่วยจำไม่ใช่เรื่องยากเลยนะ ไม่ต้องเป็นนักเขียนก็ทำได้ ขอแค่มีจินตนาการนิดหน่อย (ซึ่งพี่เชื่อว่าน้องๆ ทุกคนมีเต็มเปี่ยม!) ลองทำตาม 4 ขั้นตอนง่ายๆ นี้ดูครับ
ขั้นตอนที่ 1: หา "ตัวละครหลัก" ของเรื่อง
ตัวละครหลักก็คือ "หัวข้อใหญ่" หรือ "คอนเซ็ปต์หลัก" ที่เราต้องการจะจำนั่นเองครับ ลองมองหาสิ่งที่สำคัญที่สุดในบทเรียนนั้น แล้วจับมันมาแต่งตัวใส่บุคลิกให้มีชีวิตชีวาดูสิ
- ตัวอย่างวิชาวิทยาศาสตร์: อยากจำเรื่อง "เซลล์พืช" ก็ให้ "พี่เซลล์พืช" เป็นฮีโร่ในชุดเกราะสีเขียว (ผนังเซลล์) ที่มีโรงงานพลังงานแสงอาทิตย์ (คลอโรพลาสต์) อยู่ข้างใน
- ตัวอย่างวิชาสังคมศึกษา: อยากจำเรื่อง "พ่อขุนรามคำแหงมหาราช" ก็ให้ท่านเป็นพระราชาผู้ใจดีที่ชอบประดิษฐ์ตัวอักษรและตีระฆังรับเรื่องร้องทุกข์
ขั้นตอนที่ 2: สร้าง "ฉากและภารกิจ"
เมื่อมีตัวละครแล้ว ก็ต้องมีฉากและเป้าหมายของเรื่องราว ภารกิจนี้ก็คือ "ใจความสำคัญ" ที่เราต้องจำให้ได้นั่นเอง ฉากจะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของเรื่องได้ชัดเจนขึ้น
- ตัวอย่างวิชาวิทยาศาสตร์: ภารกิจของ "พี่เซลล์พืช" คือต้องสร้างอาหารจากแสงแดดเพื่อเลี้ยงตัวเองและพืชทั้งต้นให้รอดชีวิต โดยมีฉากเป็นใบไม้กว้างใหญ่
- ตัวอย่างวิชาสังคมศึกษา: ภารกิจของ "พ่อขุนรามคำแหง" คือการสร้างอาณาจักรสุโขทัยให้เป็นปึกแผ่นและรุ่งเรือง โดยมีฉากเป็นเมืองสุโขทัยที่ "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว"
ขั้นตอนที่ 3: เพิ่ม "ตัวละครเสริมและอุปสรรค" สุดป่วน!
นี่คือส่วนที่สนุกที่สุด! ข้อมูลย่อยๆ หรือคำศัพท์เฉพาะต่างๆ ที่เราต้องจำ ให้เปลี่ยนมันเป็นตัวละครเสริม, เพื่อนสนิท, หรือแม้กระทั่งตัวร้ายที่มาขัดขวางภารกิจ เคล็ดลับคือ ยิ่งแปลก ยิ่งตลก ยิ่งเว่อร์วังเท่าไหร่ ยิ่งจำง่าย!
- ตัวอย่างวิชาวิทยาศาสตร์: ในเรื่องของ "พี่เซลล์พืช" อาจมี "นายไมโทคอนเดรีย" เป็นเพื่อนซี้จอมพลังที่คอยเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน และมี "แวคิวโอล" เป็นถังน้ำยักษ์ที่คอยเก็บน้ำไว้ใช้ แต่ก็มี "เจ้าไวรัส" ตัวร้ายที่พยายามจะบุกเข้ามาทำลายโรงงาน
การใส่รายละเอียดที่น่าขบขันลงไปใน เทคนิคการจำด้วยการสร้างเรื่องราว (Storytelling) จะช่วยให้ข้อมูลที่ซับซ้อนกลายเป็นภาพที่น่าจดจำได้ทันที
ขั้นตอนที่ 4: เชื่อมโยงทุกอย่าง แล้ว "เล่า" ออกมาดังๆ
เมื่อมีองค์ประกอบครบแล้ว ก็ถึงเวลาร้อยเรียงทุกอย่างเข้าด้วยกันเป็นเรื่องราวที่สมบูรณ์ จากนั้นลอง "เล่า" เรื่องนี้ออกมาดังๆ ให้ตัวเองฟัง เล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง หรือจะวาดเป็นการ์ตูนช่องง่ายๆ ก็ได้ การลงมือ "ถ่ายทอด" เรื่องราวออกมานี่แหละครับ คือขั้นตอนสุดท้ายที่จะผนึกความทรงจำนั้นไว้ในสมองของเราอย่างถาวร
ตัวอย่างการใช้เทคนิคการจำด้วยการสร้างเรื่องราวในวิชาต่างๆ
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น พี่ๆ มีตัวอย่างการนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้กับวิชาต่างๆ ที่น้องๆ ต้องเจอในการสอบเข้า ม.1 มาฝากกันครับ
วิชาวิทยาศาสตร์: จำลำดับดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ
แทนที่จะท่อง "พุธ ศุกร์ โลก อังคาร พฤหัส เสาร์ ยูเรนัส เนปจูน" ลองสร้างเรื่องราวดูสิ: "เด็กชายพุธผู้ส่งสารว่องไว วิ่งผ่านเจ้าหญิงศุกร์ผู้เลอโฉมแต่ร้อนแรง เพื่อกลับมายังบ้านของเราคือดาวโลกสีฟ้า เขาต้องผ่านด่านอัศวินอังคารสีแดงจอมโหด แล้วไปขอพรจากราชาพฤหัสผู้ยิ่งใหญ่ ผู้มีวงแหวนเสาร์เป็นมงกุฎ ก่อนจะไปพบกับสองพ่อมดฝาแฝดยูเรนัสกับเนปจูนที่ปลายสุดของอาณาจักร"
วิชาสังคมศึกษา: จำลำดับอาณาจักรของไทย
สร้างเป็นมหากาพย์ครอบครัว: "เรื่องเริ่มต้นที่กรุงสุโขทัย ดั่งรุ่งอรุณแห่งความสุข เป็นอาณาจักรแรกที่รุ่งเรือง ต่อมาอำนาจถูกส่งต่อไปยังกรุงศรีอยุธยา อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่และมั่งคั่งยาวนานกว่า 400 ปี แต่แล้วก็พบกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ จนกระทั่งพระเจ้าตากสินแห่งกรุงธนบุรีได้กอบกู้เอกราชขึ้นมาในช่วงเวลาสั้นๆ แต่กล้าหาญ ก่อนจะส่งมอบภารกิจต่อให้ราชวงศ์จักรีสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ที่สงบร่มเย็นมาจนถึงปัจจุบัน"
วิชาคณิตศาสตร์: จำสูตรพื้นที่ก็ทำได้!
ใครว่าคณิตศาสตร์สร้างเรื่องราวไม่ได้? ลองดูนี่สิ! "สี่เหลี่ยมผืนผ้าอยากรู้ว่าตัวเองใหญ่แค่ไหน เลยต้องเอาเพื่อนซี้ 'ด้านกว้าง' มาคูณกับ 'ด้านยาว' (กว้าง x ยาว) ส่วนสามเหลี่ยมนั้น จริงๆ แล้วมันคือสี่เหลี่ยมที่โดนนินจาฟันฉับครึ่ง! ดังนั้นวิธีคิดจึงเหมือนกัน คือเอา 'ฐาน' มาคูณกับ 'สูง' ก่อน แล้วค่อยหารด้วย 2 (½ x ฐาน x สูง) เพราะโดนแบ่งครึ่งไปแล้วนั่นเอง!"
เคล็ดลับ Pro-Tips: อัปเกรดเรื่องเล่าให้จำแม่นยิ่งขึ้น
ถ้าน้องๆ อยากให้ เทคนิคการจำด้วยการสร้างเรื่องราว (Storytelling) ของตัวเองทรงพลังยิ่งขึ้นไปอีก ลองใช้เคล็ดลับเหล่านี้ดูนะครับ
- ทำให้มัน "เว่อร์" เข้าไว้: จินตนาการไปให้สุด! ช้างบินได้ ปลาพูดได้ ตัวเลขเต้นระบำ ยิ่งเรื่องราวแปลกประหลาดและเหนือจริงเท่าไหร่ สมองยิ่งชอบและจดจำได้ดีขึ้น
- ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5: ลองใส่รายละเอียดของ กลิ่น, เสียง, รส, และสัมผัสเข้าไปในเรื่อง เช่น "ดาวศุกร์ร้อนจนรู้สึกแสบผิว" หรือ "กลิ่นกำมะถันโชยออกมาจากภูเขาไฟ"
- วาดภาพประกอบง่ายๆ: ไม่จำเป็นต้องวาดสวยเลย แค่การขีดๆ เขียนๆ ภาพตัวละครหรือฉากในเรื่องของเราลงบนกระดาษ ก็เป็นการบังคับให้สมองจดจำภาพนั้น ซึ่งง่ายกว่าการจำตัวอักษรเยอะเลย
- เล่าให้คนอื่นฟัง: นี่คือการทบทวนที่ดีที่สุด! การพยายามอธิบายเรื่องราวของเราให้เพื่อนหรือคุณพ่อคุณแม่ฟัง จะช่วยจัดระเบียบความคิดและทำให้เราจำได้แม่นยำขึ้นแบบไม่รู้ตัว
บทสรุป: ปลดปล่อยจินตนาการ แล้วการเรียนจะง่ายขึ้น
การเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 อาจเป็นช่วงเวลาที่เคร่งเครียด แต่ไม่จำเป็นต้องน่าเบื่อเสมอไปครับ เทคนิคการจำด้วยการสร้างเรื่องราว (Storytelling) เป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือทรงพลังที่จะช่วยเปลี่ยนวิชาที่ต้องอาศัยการท่องจำให้กลายเป็นสนามเด็กเล่นของจินตนาการ มันไม่เพียงช่วยให้จำได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยลดความเครียดและทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกอีกด้วย
พี่ๆ ทีมงาน TidMor1 อยากให้น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่มองว่านี่คือการผจญภัยครั้งสำคัญ ลองนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้ดูนะครับ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร การได้เรียนรู้อย่างมีความสุขคือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว พี่ๆ ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนนะครับ!
และหากน้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าเมื่อจำเนื้อหาได้แม่นยำแล้ว การตะลุยโจทย์คือขั้นตอนต่อไปที่สำคัญ ทีมงาน TidMor1 ขอแนะนำ "ข้อสอบเข้า ม.1 วิทยาศาสตร์ 3,000 ข้อ" ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสร้างความคุ้นเคยกับแนวข้อสอบที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ TidMor1.com นะครับ