เทคนิคจดโน้ตด้วยภาพ (Sketchnoting) สำหรับคนชอบวาดรูป

เขียนโดย: ทีมงาน TidMor1 | เผยแพร่เมื่อ: 8 กันยายน 2568

จดโน้ตด้วยภาพ Sketchnoting เทคนิคเรียน เตรียมสอบ ม.1 การเรียนรู้

คุณพ่อคุณแม่และน้องๆ TidMor1 ที่น่ารักทุกคนครับ! พี่เข้าใจดีเลยว่าช่วงเวลาของการเรียน หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ต้องเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 เนี่ย มันมีเนื้อหาเยอะแยะไปหมดเลยใช่ไหมครับ? บางทีการนั่งอ่านหนังสือ หรือการจดโน้ตแบบเดิมๆ ที่มีแต่ตัวอักษรเรียงเป็นพรืดๆ ก็อาจจะทำให้น้องๆ รู้สึกเบื่อหน่าย หรือไม่ค่อยเข้าใจเท่าที่ควรใช่ไหมล่ะครับ?

เคยไหมครับที่นั่งจดตามอาจารย์ทุกคำ หรืออ่านหนังสือจนจบแล้วก็ยังรู้สึกว่า "เอ๊ะ...สรุปแล้วมันคืออะไรนะ?" หรือบางทีก็หลุดโฟกัสไปกลางคันเพราะรู้สึกว่าข้อมูลมันเยอะเกินไปจนสมองประมวลผลไม่ทัน? ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ น้องๆ ไม่ได้อยู่คนเดียวนะครับ เป็นเรื่องปกติมากๆ เลย!

วันนี้พี่ๆ ทีมงาน TidMor1 มีเทคนิคการ จดโน้ตด้วยภาพ ที่เรียกกันว่า Sketchnoting มาแนะนำครับ ซึ่งรับรองว่าถูกใจน้องๆ ที่ชอบวาดรูป หรือชอบการเรียนรู้แบบเห็นภาพแน่นอน เทคนิคนี้จะเปลี่ยนการจดโน้ตน่าเบื่อๆ ให้กลายเป็นการเรียนรู้ที่สนุก จดจำได้ง่าย และที่สำคัญคือช่วยให้การเตรียมสอบเข้า ม.1 ของน้องๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างคาดไม่ถึงเลยล่ะครับ! มาดูกันว่า Sketchnoting จะช่วยน้องๆ ได้ยังไงบ้าง และเราจะเริ่มต้นเทคนิคดีๆ แบบนี้ได้อย่างไรบ้าง ไปพร้อมกันเลยครับ!

ทำไม 'จดโน้ตด้วยภาพ' (Sketchnoting) ถึงน่าสนใจสำหรับน้องๆ?

น้องๆ เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมบางทีเราถึงจำเรื่องราวจากการ์ตูน หรือภาพยนตร์ได้แม่นยำกว่าเนื้อหาในหนังสือเรียนหลายเท่าตัว? นั่นเป็นเพราะสมองของเราชอบข้อมูลที่เป็นภาพครับ การเรียนรู้ผ่านภาพช่วยให้เราเข้าใจและจดจำได้ดีกว่าการอ่านตัวอักษรล้วนๆ เยอะเลย และนี่คือเหตุผลว่าทำไมการ จดโน้ตด้วยภาพ หรือ Sketchnoting ถึงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากๆ สำหรับน้องๆ ครับ

จดโน้ตแบบเดิมๆ ไม่ได้ผล?

การจดโน้ตแบบเดิมๆ ที่เน้นการเขียนทุกคำพูดของครู หรือลอกทุกตัวอักษรจากหนังสือ อาจจะทำให้น้องๆ เหนื่อยกับการจดมากกว่าการทำความเข้าใจใช่ไหมครับ? บางทีจดไปแล้วก็ไม่ได้กลับมาอ่าน หรืออ่านแล้วก็ยังงงๆ เพราะมันดูไม่มีชีวิตชีวา การจดแบบนี้มักจะเน้นแค่การคัดลอก ไม่ได้ช่วยกระตุ้นให้เราคิดวิเคราะห์ หรือเชื่อมโยงข้อมูลใหม่ๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งต่างจากการ จดโน้ตด้วยภาพ ที่เน้นการกลั่นกรองและสรุปข้อมูลให้เป็นภาพ ทำให้เราต้องคิดไปด้วยในขณะที่จดนั่นเองครับ

สนุกกว่าและไม่น่าเบื่อ

ลองคิดภาพดูสิครับ ระหว่างสมุดจดที่มีแต่ตัวหนังสือสีดำๆ กับสมุดที่มีรูปภาพ ไอคอน ลูกศร และสีสันเต็มไปหมด อันไหนน่าเปิดดูมากกว่ากัน? แน่นอนว่าต้องเป็นแบบหลังใช่ไหมครับ! Sketchnoting ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุก เหมือนการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะชิ้นหนึ่ง ซึ่งจะช่วยดึงดูดความสนใจของน้องๆ และทำให้การทบทวนบทเรียนไม่น่าเบื่ออีกต่อไป น้องๆ ที่ชอบวาดรูปอยู่แล้วจะต้องหลงรักการ จดโน้ตด้วยภาพ อย่างแน่นอนเลยครับ

เข้าใจง่าย จำได้แม่น

สมองของเราถูกออกแบบมาให้ประมวลผลภาพได้เร็วกว่าตัวอักษรหลายเท่าตัวนัก เวลาเรา จดโน้ตด้วยภาพ เราไม่ได้แค่จด แต่เรากำลังเปลี่ยนข้อมูลที่ซับซ้อนให้กลายเป็น "แผนที่ความรู้" ที่มองเห็นได้ชัดเจน การใช้รูปภาพ สัญลักษณ์ และการจัดวางข้อมูลอย่างเป็นระบบ ทำให้เราเห็นความเชื่อมโยงของเนื้อหาต่างๆ ได้ง่ายขึ้น และเมื่อเราเห็นภาพรวมได้ชัดเจน การจดจำก็ทำได้ดีขึ้นและอยู่กับเราไปนานขึ้น เหมือนน้องๆ จำแผนที่ทางไปบ้านเพื่อนได้ง่ายกว่าการจำรายชื่อถนนทุกสายเรียงกันนั่นแหละครับ

กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์

Sketchnoting ไม่ได้แค่ช่วยเรื่องความจำ แต่ยังช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และทักษะการคิดวิเคราะห์ของน้องๆ ไปพร้อมกัน เพราะน้องๆ จะต้องคิดว่าจะแปลงข้อมูลจากตัวอักษรให้เป็นภาพหรือสัญลักษณ์อะไรดี จะจัดวางยังไงให้เข้าใจง่ายที่สุด กระบวนการคิดเหล่านี้จะช่วยพัฒนาสมองส่วนที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาและการคิดนอกกรอบ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากๆ ในชีวิตและในการเรียนรู้ทุกๆ เรื่อง ไม่ใช่แค่การ จดโน้ตด้วยภาพ เท่านั้นนะครับ

Sketchnoting คืออะไร? มาทำความรู้จักกัน

น้องๆ คงจะเริ่มเห็นประโยชน์ของการ จดโน้ตด้วยภาพ หรือ Sketchnoting กันบ้างแล้วใช่ไหมครับ? แต่หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า "แล้วมันคืออะไรกันแน่?" และ "มันต่างจากการวาดรูปธรรมดายังไง?" ไม่ต้องกังวลนะครับ พี่ๆ จะอธิบายให้ฟังแบบง่ายๆ เข้าใจได้ในพริบตาเลย

ความหมายของ Sketchnoting

Sketchnoting มาจากคำว่า "Sketch" ที่แปลว่า การร่างภาพ หรือการวาดภาพคร่าวๆ และ "Noting" ที่แปลว่า การจดบันทึก หรือการจดโน้ต ดังนั้น Sketchnoting ก็คือ "การจดบันทึกด้วยการผสมผสานทั้งตัวอักษร รูปภาพ สัญลักษณ์ ลูกศร เส้น และการจัดวางต่างๆ เพื่อช่วยสรุปและทำความเข้าใจข้อมูล" ครับ พูดง่ายๆ ก็คือการจดโน้ตในแบบที่มีภาพประกอบเป็นส่วนสำคัญนั่นเอง

หัวใจสำคัญของ Sketchnoting คือการจับใจความสำคัญของข้อมูล แล้วนำมาแปลงเป็นภาพ หรือสัญลักษณ์ง่ายๆ ควบคู่ไปกับตัวอักษร เพื่อให้เราสามารถจดจำและทบทวนเนื้อหาได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากการฟังบรรยาย อ่านหนังสือ หรือแม้แต่การระดมสมองเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ น้องๆ สามารถนำเทคนิค จดโน้ตด้วยภาพ ไปใช้ได้กับทุกวิชาเลยนะครับ

แตกต่างจากการวาดรูปทั่วไปอย่างไร

น้องๆ อาจจะคิดว่า "อ้าว! แล้วมันต่างอะไรกับการวาดรูปเล่นในสมุดล่ะ?" ความแตกต่างที่สำคัญเลยก็คือ:

  • เน้นการสรุปและทำความเข้าใจ: Sketchnoting ไม่ใช่การวาดรูปเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่มีเป้าหมายหลักคือการช่วยให้เราเข้าใจและจดจำข้อมูลที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น รูปภาพที่วาดจึงเป็นเครื่องมือในการสื่อสารความคิด ไม่ใช่ผลงานศิลปะที่ต้องสมบูรณ์แบบ
  • ผสมผสานหลายองค์ประกอบ: การ จดโน้ตด้วยภาพ ไม่ได้มีแค่รูปวาด แต่ยังรวมถึงการใช้ตัวอักษรในรูปแบบต่างๆ (เช่น ตัวหนา ตัวเอียง ขนาดใหญ่เล็ก) การใช้สัญลักษณ์แทนคำพูด เส้นเชื่อมโยง ลูกศร วงกลม หรือกรอบต่างๆ เพื่อจัดระเบียบข้อมูลให้เป็นระบบ
  • ไม่ต้องวาดเก่งก็ทำได้: นี่คือข่าวดีที่สุดสำหรับน้องๆ ที่กลัวการวาดรูปเลยครับ! Sketchnoting ไม่ได้ต้องการทักษะการวาดรูปขั้นสูง ขอแค่เราสื่อสารสิ่งที่คิดออกมาเป็นภาพง่ายๆ ที่ตัวเราเข้าใจก็พอแล้ว ไม่ต้องเป็นปิกัสโซ่ก็สามารถ จดโน้ตด้วยภาพ ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

เริ่มต้น 'จดโน้ตด้วยภาพ' (Sketchnoting) ง่ายๆ ไม่ต้องกลัววาดไม่สวย

มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอยกันแล้วครับ! หลายคนอาจจะคิดว่าการ จดโน้ตด้วยภาพ ดูเป็นเรื่องยาก ต้องวาดรูปเก่งๆ ถึงจะทำได้ แต่พี่ขอยืนยันเลยว่าไม่จริงเลยครับ! การ Sketchnoting เป็นเรื่องของ 'ความคิด' มากกว่า 'ศิลปะ' เรามาดูกันว่าน้องๆ จะเริ่มต้นได้อย่างไรบ้างนะครับ

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม (ไม่เยอะอย่างที่คิด!)

ไม่ต้องเตรียมอะไรหรูหราเลยครับ แค่มีของง่ายๆ ใกล้ตัว น้องๆ ก็สามารถเริ่ม จดโน้ตด้วยภาพ ได้ทันที

  • สมุดเปล่า/กระดาษเปล่า: แนะนำให้ใช้กระดาษเปล่า หรือสมุดที่ไม่มีเส้นบรรทัด เพื่อให้น้องๆ มีอิสระในการจัดวางรูปภาพและข้อความได้อย่างเต็มที่
  • ปากกา: อาจจะเป็นปากกาสีดำธรรมดา หรือถ้ามีปากกาสีต่างๆ สัก 2-3 สี เช่น น้ำเงิน แดง เขียว ก็จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจ และเน้นจุดสำคัญได้ดีขึ้นครับ
  • ปากกาเน้นข้อความ (ถ้ามี): ใช้สำหรับเน้นคำสำคัญ หรือทำให้ส่วนต่างๆ โดดเด่นขึ้นมาได้
  • ดินสอ ยางลบ (สำหรับเริ่มต้น): หากยังไม่มั่นใจในการวาดรูป หรืออยากร่างภาพก่อน ก็สามารถใช้ดินสอได้ครับ พอวาดจนคล่องแล้วค่อยใช้ปากกาก็ได้

เห็นไหมครับว่าอุปกรณ์ง่ายนิดเดียวเอง น้องๆ ไม่จำเป็นต้องไปซื้ออุปกรณ์แพงๆ เลยครับ แค่มีสมุดกับปากกาหนึ่งด้าม ก็เริ่ม จดโน้ตด้วยภาพ ได้เลย!

กฎเหล็กข้อเดียว: วาดในแบบของตัวเอง!

สิ่งสำคัญที่สุดในการ จดโน้ตด้วยภาพ คือ "ไม่มีกฎตายตัว" ครับ น้องๆ ไม่จำเป็นต้องวาดรูปเหมือนใคร ไม่จำเป็นต้องวาดให้สวยเหมือนศิลปินมืออาชีพ ขอแค่วาดในแบบที่ตัวเองเข้าใจ และเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองก็พอแล้วครับ

  • ไม่ต้องกลัววาดไม่สวย: พี่เข้าใจว่าน้องๆ หลายคนอาจจะคิดว่าตัวเองวาดรูปไม่เก่ง แต่เชื่อเถอะครับว่าภาพที่เรียบง่ายที่สุด อย่างสี่เหลี่ยม วงกลม สามเหลี่ยม หรือรูปคนก้างปลา ก็สามารถสื่อความหมายได้ดีเยี่ยมแล้วครับ หัวใจของการ Sketchnoting คือการสื่อสาร ไม่ใช่ความงามทางศิลปะ
  • เริ่มจากสิ่งง่ายๆ: ลองเริ่มจากวาดสัญลักษณ์ง่ายๆ เช่น หลอดไฟแทนความคิด, รูปหนังสือแทนวิชา, รูปหัวใจแทนความรู้สึกดีๆ ค่อยๆ ฝึกไปเรื่อยๆ น้องๆ จะพบว่าตัวเองมีคลังสัญลักษณ์เป็นของตัวเอง และการ จดโน้ตด้วยภาพ จะไหลลื่นขึ้นเองครับ
  • เป็นตัวของตัวเอง: การ จดโน้ตด้วยภาพ เป็นเครื่องมือส่วนตัวของน้องๆ ครับ ดังนั้นจงทำในแบบที่ตัวเองชอบและถนัดที่สุด บางคนอาจจะชอบใช้สีเยอะๆ บางคนอาจจะชอบเน้นตัวอักษรใหญ่ๆ บางคนอาจจะชอบใช้แต่รูปภาพ เลือกสไตล์ที่เป็นของตัวเอง แล้วน้องๆ จะสนุกกับมันมากยิ่งขึ้นครับ

องค์ประกอบสำคัญของ Sketchnoting

แม้ว่าการ จดโน้ตด้วยภาพ จะไม่มีกฎตายตัว แต่ก็มีองค์ประกอบพื้นฐานบางอย่างที่ถ้าน้องๆ เข้าใจและนำไปปรับใช้ จะช่วยให้ Sketchnote ของน้องๆ มีประสิทธิภาพและดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้นครับ ลองนึกภาพว่าเรากำลังสร้างสรรค์งานชิ้นหนึ่ง ที่มีส่วนประกอบต่างๆ มารวมกันอย่างลงตัวนะครับ

หัวข้อและโครงสร้าง (Structure)

หัวข้อและโครงสร้างคือกระดูกสันหลังของการ จดโน้ตด้วยภาพ ที่ดีครับ มันช่วยให้ข้อมูลไม่กระจัดกระจาย และทำให้เรามองเห็นภาพรวมของเนื้อหาได้ง่าย

  • หัวข้อหลัก (Main Topic): ควรเป็นจุดศูนย์กลางที่โดดเด่น อาจจะเขียนด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่ มีกรอบล้อมรอบ หรือใช้สีที่ต่างออกไป เพื่อให้รู้ว่านี่คือใจความสำคัญของหน้ากระดาษนี้
  • หัวข้อย่อย (Sub-topics): แตกแขนงออกมาจากหัวข้อหลัก อาจจะใช้ลูกศร หรือเส้นเชื่อมโยง เพื่อแสดงความสัมพันธ์กัน
  • การจัดวาง (Layout): ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว แต่น้องๆ อาจจะลองจัดวางแบบแผนผังความคิด (Mind Map) ที่มีหัวข้อหลักอยู่ตรงกลาง แล้วแผ่กิ่งก้านสาขาออกไป หรือจะจัดแบบเชิงเส้น (Linear) เหมือนการเล่าเรื่องก็ได้ ลองหาสไตล์ที่เหมาะกับตัวเองดูนะครับ

ตัวอักษร (Typography)

ในโลกของการ จดโน้ตด้วยภาพ ตัวอักษรก็เป็นเหมือนภาพอย่างหนึ่งครับ การเล่นกับขนาด รูปแบบ และความหนาของตัวอักษร ช่วยให้ Sketchnote มีมิติและน่าสนใจมากขึ้น

  • ขนาด: ใช้ขนาดตัวอักษรที่แตกต่างกันเพื่อบอกลำดับความสำคัญของข้อมูล เช่น หัวข้อใหญ่ใช้ตัวอักษรใหญ่ ข้อความสำคัญใช้ตัวหนา ส่วนรายละเอียดใช้ตัวอักษรปกติ
  • รูปแบบ: ลองเปลี่ยนฟอนต์ (รูปแบบการเขียนตัวอักษร) ดูบ้าง เพื่อเน้นคำ หรือสร้างความสนุกสนาน เช่น ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด ตัวเขียน หรือตัวอักษรที่มีลูกเล่นเล็กน้อย
  • ความหนา/สี: ใช้ปากกาที่มีหัวขนาดต่างๆ หรือใช้ปากกาสีเพื่อเน้นคำสำคัญ หรือวลีที่ต้องการให้โดดเด่น

ไอคอนและรูปภาพ (Icons & Images)

นี่คือหัวใจสำคัญของการ จดโน้ตด้วยภาพ เลยครับ ไอคอนและรูปภาพช่วยเปลี่ยนนามธรรมให้เป็นรูปธรรม และทำให้เราจำเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

  • สัญลักษณ์ง่ายๆ: ไม่ต้องวาดรูปที่ซับซ้อนครับ ลองใช้สัญลักษณ์ง่ายๆ แทนคำ หรือแนวคิด เช่น หลอดไฟ = ไอเดีย, หนังสือ = ความรู้, นาฬิกา = เวลา, เครื่องหมายคำถาม = คำถาม
  • คน: การวาดรูปคนง่ายๆ แสดงท่าทางต่างๆ ก็ช่วยสื่อสารความรู้สึก หรือการกระทำได้ดี
  • สิ่งของ: วาดสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา เช่น อุปกรณ์วิทยาศาสตร์, พืช, สัตว์ หรือสิ่งของในชีวิตประจำวัน
  • การเปรียบเทียบ: ใช้รูปภาพเพื่อเปรียบเทียบสิ่งต่างๆ ทำให้เข้าใจหลักการที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น

เส้นและลูกศร (Lines & Arrows)

เส้นและลูกศรมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงและนำทางสายตาของเราไปบน Sketchnote ครับ

  • เส้นเชื่อมโยง: ใช้เส้นเพื่อเชื่อมโยงหัวข้อหลักกับหัวข้อย่อย หรือแสดงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลต่างๆ
  • ลูกศร: ลูกศรบอกทิศทาง บอกลำดับขั้นตอน หรือชี้ให้เห็นจุดสำคัญที่ต้องให้ความสนใจ
  • กรอบและวงกลม: ใช้กรอบสี่เหลี่ยม วงกลม หรือรูปทรงอื่นๆ เพื่อจัดกลุ่มข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน หรือเน้นข้อมูลที่สำคัญมากๆ

สีสัน (Color)

สีสันไม่ใช่แค่ทำให้ Sketchnote สวยงามเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในการจัดระเบียบข้อมูลและช่วยเรื่องความจำด้วยครับ

  • การจัดหมวดหมู่: ใช้สีที่ต่างกันสำหรับหมวดหมู่ข้อมูลที่ต่างกัน เช่น สีน้ำเงินสำหรับหัวข้อหลัก, สีเขียวสำหรับตัวอย่าง, สีแดงสำหรับสิ่งที่ต้องจำพิเศษ
  • เน้นคำสำคัญ: ใช้ปากกาเน้นข้อความ หรือปากกาสีสดใส เพื่อเน้นคำสำคัญ หรือประเด็นที่ต้องการให้โดดเด่น
  • สร้างอารมณ์: สีสามารถช่วยสร้างอารมณ์ หรือความรู้สึกบางอย่างได้ เช่น สีส้มให้ความรู้สึกกระตือรือร้น, สีฟ้าให้ความรู้สึกสงบ

การใช้ส่วนประกอบเหล่านี้อย่างเข้าใจ จะช่วยให้น้องๆ สร้างสรรค์ จดโน้ตด้วยภาพ ที่ไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังเป็นเครื่องมือการเรียนรู้ที่ทรงพลังได้อย่างแท้จริงครับ

เทคนิคการ 'จดโน้ตด้วยภาพ' ให้มีประสิทธิภาพ

เมื่อเราเข้าใจองค์ประกอบพื้นฐานแล้ว ทีนี้เรามาดูเทคนิคที่จะช่วยให้น้องๆ จดโน้ตด้วยภาพ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดกันดีกว่าครับ เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้น้องๆ ไม่เพียงแค่จดสวย แต่ยังจดได้อย่างชาญฉลาดอีกด้วย

ฟัง/อ่านแล้วสรุปจับใจความ

หัวใจสำคัญของ Sketchnoting คือการ "กลั่นกรอง" ข้อมูล ไม่ใช่การคัดลอกทั้งหมด เมื่อน้องๆ ฟังคุณครูบรรยาย หรืออ่านหนังสือ ลองฝึกจับใจความสำคัญของสิ่งที่กำลังเรียนรู้ สรุปออกมาเป็นประโยคสั้นๆ หรือคำสำคัญ แล้วค่อยแปลงมันเป็นภาพ หรือสัญลักษณ์ที่สื่อความหมายได้ในแบบของน้องๆ การทำแบบนี้จะบังคับให้น้องๆ คิดวิเคราะห์และทำความเข้าใจเนื้อหาไปในตัว ไม่ใช่แค่ จดโน้ตด้วยภาพ ตามอย่างเดียว

แบ่งพื้นที่ให้ชัดเจน

ก่อนจะเริ่ม จดโน้ตด้วยภาพ ลองแบ่งพื้นที่บนหน้ากระดาษคร่าวๆ ก่อนครับ เช่น ส่วนบนสำหรับหัวข้อหลัก, ส่วนกลางสำหรับเนื้อหาสำคัญ, ส่วนล่างสำหรับสรุป หรือคำถามที่สงสัย การแบ่งพื้นที่ช่วยให้ Sketchnote ของน้องๆ มีระเบียบ ไม่ดูรกตา และง่ายต่อการทบทวนในภายหลัง เปรียบเหมือนกับการจัดบ้านให้เป็นระเบียบ เราก็จะหาของเจอได้ง่ายๆ นั่นเอง

ใช้สัญลักษณ์แทนคำพูด

นี่คือจุดเด่นของการ จดโน้ตด้วยภาพ เลยครับ! แทนที่จะเขียนประโยคยาวๆ ลองหาสัญลักษณ์ หรือไอคอนที่สามารถแทนคำ หรือวลีนั้นๆ ได้ เช่น แทนที่จะเขียนว่า "ความคิดที่สำคัญ" อาจจะวาดรูปหลอดไฟ แทนที่จะเขียนว่า "คำถาม" อาจจะวาดรูปเครื่องหมายคำถามใหญ่ๆ การใช้สัญลักษณ์จะช่วยประหยัดเวลาในการจด ทำให้เราสามารถจดข้อมูลที่เยอะๆ ได้ทันเวลา และยังกระตุ้นการจำแบบภาพได้ดีกว่าตัวอักษรล้วนๆ อีกด้วย

สร้าง Mind Map หรือ Diagram

สำหรับเนื้อหาที่มีความสัมพันธ์กันหลายส่วน การสร้างแผนผังความคิด (Mind Map) หรือแผนภาพ (Diagram) เป็นวิธี จดโน้ตด้วยภาพ ที่มีประสิทธิภาพมากครับ โดยเริ่มต้นจากหัวข้อหลักตรงกลาง แล้วแตกย่อยเป็นหัวข้อย่อยต่างๆ ด้วยเส้นเชื่อมโยง พร้อมวาดรูปประกอบในแต่ละกิ่งก้าน วิธีนี้ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของความสัมพันธ์ของข้อมูลได้อย่างชัดเจน และช่วยในการทบทวนบทเรียนได้รวดเร็วขึ้นเยอะเลย

ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ

เหมือนกับทักษะอื่นๆ ครับ การ จดโน้ตด้วยภาพ ก็ต้องอาศัยการฝึกฝน ยิ่งน้องๆ ฝึกบ่อยเท่าไหร่ ก็จะยิ่งคล่องขึ้นเท่านั้น ลองเริ่มจากวิชาที่น้องๆ ชอบก่อน หรือเนื้อหาที่คิดว่าง่ายๆ ไม่ต้องคาดหวังว่าต้องสมบูรณ์แบบตั้งแต่ครั้งแรก ทำไปเรื่อยๆ น้องๆ จะพัฒนาสไตล์การวาดสัญลักษณ์ของตัวเอง และค้นพบวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการ จดโน้ตด้วยภาพ ที่เหมาะกับตัวเองได้อย่างแน่นอนครับ

ประโยชน์ที่น้องๆ จะได้รับจากการ 'จดโน้ตด้วยภาพ'

นอกเหนือจากความสนุกและวิธีการที่แตกต่างแล้ว การ จดโน้ตด้วยภาพ หรือ Sketchnoting ยังมอบประโยชน์อีกมากมายให้น้องๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาสำคัญของการเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 ครับ

พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์

อย่างที่พี่ได้บอกไปแล้วว่าการ จดโน้ตด้วยภาพ ไม่ใช่แค่การคัดลอก แต่คือการสรุปและตีความข้อมูล ซึ่งกระบวนการนี้จะช่วยฝึกให้น้องๆ คิดวิเคราะห์ จับใจความสำคัญ และเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ เข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติ ทักษะเหล่านี้สำคัญมาก ไม่ใช่แค่สำหรับการสอบ แต่สำหรับการเรียนรู้ในทุกระดับและทุกๆ ด้านของชีวิตเลยครับ

เพิ่มความจำระยะยาว

เมื่อน้องๆ เปลี่ยนข้อมูลให้เป็นภาพ สมองของเราจะจดจำสิ่งเหล่านั้นได้ดีกว่าการจำตัวอักษรครับ การสร้าง Sketchnote เป็นเหมือนการสร้าง "ห้องสมุดภาพ" ในสมอง ทำให้ข้อมูลฝังแน่นในความจำระยะยาว และเมื่อถึงเวลาที่ต้องทบทวนเพื่อเตรียมสอบ น้องๆ แค่เหลียวมอง Sketchnote ที่ตัวเองทำไว้ ภาพรวมของบทเรียนก็จะกลับมาในหัวอย่างรวดเร็ว ทำให้การทบทวนง่ายและมีประสิทธิภาพกว่าเดิมเยอะเลยครับ

ลดความเครียดจากการเรียน

การเรียนรู้ที่ไม่น่าเบื่อ ย่อมช่วยลดความเครียดได้เป็นอย่างดีใช่ไหมครับ? การ จดโน้ตด้วยภาพ ทำให้การเรียนเป็นเรื่องสนุก คล้ายกับการได้เล่น ได้วาดรูปไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้ ความรู้สึกเบื่อหน่าย หรือท้อแท้จากการจดโน้ตแบบเดิมๆ จะหายไป และน้องๆ จะรู้สึกกระตือรือร้นและอยากเรียนรู้มากขึ้น สิ่งนี้สำคัญมากในการสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนครับ

เตรียมสอบอย่างมั่นใจ

สุดท้ายแล้ว เมื่อน้องๆ มีเครื่องมือการเรียนรู้ที่ช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้อย่างลึกซึ้ง จดจำได้แม่นยำ และทบทวนได้รวดเร็ว ความมั่นใจในการเตรียมตัวสอบก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยครับ น้องๆ จะรู้สึกพร้อมและมีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับข้อสอบ เพราะรู้ว่าตัวเองเข้าใจเนื้อหาและมีวิธีการ จดโน้ตด้วยภาพ ที่มีประสิทธิภาพมาช่วยเสริมศักยภาพนั่นเอง

เป็นยังไงบ้างครับน้องๆ และคุณพ่อคุณแม่? เห็นไหมครับว่าเทคนิค จดโน้ตด้วยภาพ หรือ Sketchnoting ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย แถมยังเป็นประโยชน์มากๆ สำหรับน้องๆ ในวัยที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 ด้วยนะครับ ไม่ว่าน้องๆ จะชอบวาดรูปอยู่แล้วหรือไม่ก็ตาม ลองเปิดใจและให้โอกาสตัวเองได้ลองใช้เทคนิคนี้ดูนะครับ พี่เชื่อว่ามันจะเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ของน้องๆ ให้สนุกและมีประสิทธิภาพขึ้นอีกเยอะเลย

การเรียนรู้ที่ดีคือการเรียนรู้ที่สนุกและเข้าใจได้จริง การ จดโน้ตด้วยภาพ เป็นหนึ่งในเทคนิคที่จะช่วยให้สิ่งนั้นเป็นจริงได้ครับ และหากการวางแผนนี้ทำให้น้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าการตะลุยโจทย์วิทยาศาสตร์คือสิ่งสำคัญ ทีมงาน TidMor1 ขอแนะนำ "ข้อสอบเข้า ม.1 วิทยาศาสตร์ 3,000 ข้อ" ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสร้างความคุ้นเคยกับแนวข้อสอบที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ TidMor1.com นะครับ