คุณพ่อคุณแม่และน้องๆ TidMor1 ที่น่ารักทุกคนครับ เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมเราถึงมีหน้าตาคล้ายคุณพ่อคุณแม่ บางคนได้ผมหยิกเหมือนคุณแม่ บางคนได้ตาสองชั้นเหมือนคุณพ่อ หรือบางครั้งก็มีลักษณะพิเศษบางอย่างที่มาจากคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายเลย?
และอีกคำถามที่อาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่กังวลใจอยู่บ้าง คือเรื่องของ โรค ครับ บางโรคที่ได้ยินกันบ่อยๆ เช่น ธาลัสซีเมีย หรือโรคเบาหวานบางชนิด ทำไมถึงมักจะพบในหลายๆ คนในครอบครัวเดียวกัน?
เรื่องเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวหรือเข้าใจยากอย่างที่คิดเลยครับ จริงๆ แล้วมันคือเรื่องราวของ "พันธุกรรม" และ "ยีน" ที่ซ่อนอยู่ในตัวเราทุกคนนั่นเอง! วันนี้พี่ๆ ทีมงาน TidMor1 จะพาคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ ไปไขปริศนาเรื่องราวของยีน การถ่ายทอดลักษณะต่างๆ และทำความเข้าใจเรื่องโรคที่มากับยีนในแบบที่ง่ายที่สุด เหมือนได้ฟังเรื่องเล่าสนุกๆ กันเลยครับ จะได้ไม่ต้องกังวลใจ และสามารถดูแลตัวเองและคนในครอบครัวได้อย่างมั่นใจมากขึ้นครับ
"ยีน" คืออะไร? สำคัญกับเรายังไง?
ลองจินตนาการดูนะครับ ว่าร่างกายของเราทุกคนเหมือนบ้านหลังใหญ่ๆ หลังหนึ่ง และในบ้านหลังนี้มีห้องต่างๆ มากมาย เช่น ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ แต่ละห้องก็มีเฟอร์นิเจอร์และรายละเอียดที่แตกต่างกันไป
ในทำนองเดียวกัน ร่างกายของเราก็มีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะแยะไปหมด ไม่ว่าจะเป็นสีผม สีผิว สีตา ความสูง รูปร่าง หรือแม้แต่ความสามารถพิเศษบางอย่าง สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นมาได้ ต้องมี "พิมพ์เขียว" หรือ "คู่มือ" กำหนดเอาไว้ใช่ไหมครับ?
นั่นแหละครับ "ยีน" ก็เปรียบเสมือนพิมพ์เขียว หรือชุดคำสั่งเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ในทุกเซลล์ของร่างกายเรา หน้าที่ของมันก็คือการกำหนดลักษณะต่างๆ ที่เราเป็นอยู่นี่แหละครับ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา หรือแม้กระทั่งการทำงานของอวัยวะภายในของเรา ทุกอย่างล้วนมีรหัสลับที่เรียกว่ายีนควบคุมอยู่!
หน่วยเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่: ยีนและดีเอ็นเอ
น้องๆ อาจจะเคยได้ยินคำว่า "ดีเอ็นเอ" (DNA) กันมาบ้างนะครับ? ดีเอ็นเอเนี่ยแหละครับ คือสารพันธุกรรมที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลทั้งหมดของเราเอาไว้ ลองนึกภาพดีเอ็นเอเหมือนบันไดเวียนเล็กๆ ที่บิดเป็นเกลียวอยู่ภายในเซลล์ของเรา ยีนก็คือส่วนหนึ่งของบันไดดีเอ็นเอเหล่านี้แหละครับ
- ดีเอ็นเอ: คือห้องสมุดขนาดใหญ่ที่เก็บข้อมูลทั้งหมดของสิ่งมีชีวิตเอาไว้ มีลักษณะเป็นสายยาวๆ บิดเกลียวคล้ายบันไดวน
- ยีน: คือหนังสือแต่ละเล่มในห้องสมุดดีเอ็นเอนี้ ซึ่งแต่ละเล่มก็จะเก็บข้อมูลเฉพาะเรื่อง เช่น ยีนที่ควบคุมสีตา ยีนที่ควบคุมความสูง เป็นต้น
- โครโมโซม: น้องๆ อาจจะเคยได้ยินคำนี้ด้วย โครโมโซมก็เหมือนชั้นวางหนังสือในห้องสมุดดีเอ็นเอ ที่รวมหนังสือ (ยีน) จำนวนมากเอาไว้เป็นกลุ่มๆ ให้เราจัดเก็บและค้นหาได้ง่ายขึ้น
สรุปง่ายๆ ก็คือ ยีนเป็นส่วนเล็กๆ แต่สำคัญมากๆ ในร่างกายเรา ที่กำหนดว่าเราจะเป็นอย่างไร จะมีรูปร่างหน้าตาแบบไหน และจะทำงานอย่างไรในระดับเซลล์เลยล่ะครับ
คุณสมบัติที่มาจากรุ่นสู่รุ่น: ลักษณะทางพันธุกรรม
แล้วทำไมบางทีเราถึงมีลักยิ้มเหมือนคุณยาย หรือจมูกโด่งเหมือนคุณพ่อล่ะ? นั่นเป็นเพราะว่า "ยีน" มันถูกส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นนั่นเองครับ
เวลาคุณพ่อคุณแม่มีน้องๆ ยีนครึ่งหนึ่งจะมาจากคุณพ่อ และอีกครึ่งหนึ่งจะมาจากคุณแม่ครับ พอสองส่วนนี้มารวมกัน ก็จะเกิดเป็นชุดยีนใหม่ที่กำหนดลักษณะเฉพาะตัวของน้องๆ ขึ้นมานั่นเอง เปรียบเหมือนการผสมสี คุณพ่อมีสีน้ำเงิน คุณแม่มีสีเหลือง พอมารวมกัน น้องๆ ก็อาจจะได้สีเขียวที่แปลกออกไป หรืออาจจะได้สีใดสีหนึ่งที่เด่นกว่าก็ได้ครับ
ลักษณะทางพันธุกรรมที่เราได้รับมาจากพ่อแม่และบรรพบุรุษของเรานี่แหละครับ ที่ทำให้เราทุกคนมีความแตกต่างและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากๆ เลย!
การถ่ายทอดลักษณะ: ทำไมเราถึงเหมือนพ่อแม่?
เคยสงสัยไหมครับว่า การที่น้องๆ มีผมหยักศกเหมือนคุณแม่ หรือมีตาชั้นเดียวเหมือนคุณพ่อ มันเกิดขึ้นได้ยังไง? กระบวนการนี้เรียกว่า "การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม" ครับ
ลองคิดภาพว่า คุณพ่อคุณแม่แต่ละคนมี "ชุดข้อมูลลับ" ที่อยู่ในร่างกาย โดยชุดข้อมูลนี้จะถูกแบ่งออกเป็นครึ่งๆ เพื่อส่งต่อให้กับน้องๆ ครับ คุณพ่อจะส่ง "ชุดข้อมูลครึ่งหนึ่ง" ของตัวเองมาให้ และคุณแม่ก็จะส่ง "ชุดข้อมูลอีกครึ่งหนึ่ง" มาให้เช่นกัน
เมื่อชุดข้อมูลครึ่งๆ ของทั้งคุณพ่อและคุณแม่มารวมกัน ก็จะกลายเป็น "ชุดข้อมูลฉบับสมบูรณ์" สำหรับน้องๆ หนึ่งคนนั่นเองครับ ชุดข้อมูลนี้ก็คือ "ยีน" ที่จะกำหนดทุกอย่างในตัวน้องๆ ตั้งแต่สีผม สีตา ไปจนถึงความสูง และบางครั้งก็รวมถึงความเสี่ยงต่อการเกิดโรคบางอย่างด้วยครับ
เกมส์จับคู่ยีน: โครโมโซมและเซลล์สืบพันธุ์
ในเซลล์ร่างกายของเราทุกเซลล์จะมีแท่งเล็กๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เรียกว่า "โครโมโซม" ครับ เจ้าโครโมโซมพวกนี้แหละคือตัวเก็บยีนเอาไว้เป็นกลุ่มๆ เหมือนตู้เก็บเอกสารชั้นเยี่ยมเลย
- คนเรามีโครโมโซมทั้งหมด 46 แท่ง หรือ 23 คู่
- น้องๆ จะได้รับโครโมโซม 23 แท่งจากคุณพ่อ (อยู่ในสเปิร์ม) และอีก 23 แท่งจากคุณแม่ (อยู่ในไข่)
- เมื่อสเปิร์มกับไข่มารวมกัน ก็จะเกิดเป็นเซลล์แรกของน้องๆ ที่มีโครโมโซมครบ 46 แท่ง พร้อมที่จะพัฒนาเป็นร่างกายที่สมบูรณ์แบบครับ
การจับคู่โครโมโซมและยีนนี้เป็นไปแบบสุ่มครับ เหมือนเราสับไพ่แล้วแจกให้คนสองคน คนละครึ่ง ซึ่งทำให้พี่น้องในครอบครัวเดียวกันก็ยังมีลักษณะที่แตกต่างกันได้บ้าง แม้ว่าจะมาจากพ่อแม่คนเดียวกันก็ตาม!
ลักษณะเด่นซ่อนด้อย: ทำไมบางทีเราไม่เหมือนพ่อแม่เป๊ะๆ
เคยสังเกตไหมครับว่า บางทีคุณพ่อคุณแม่มีลักยิ้ม แต่น้องๆ ไม่มี หรือคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เป็นโรคตาบอดสี แต่ลูกชายกลับเป็น? นี่คือเรื่องราวของ "ยีนเด่น" และ "ยีนด้อย" ครับ
- ยีนเด่น (Dominant Gene): คือยีนที่แสดงลักษณะออกมาได้ทันที แม้จะมีเพียงยีนเดียว ตัวอย่างเช่น ยีนที่ทำให้มีลักยิ้ม ยีนที่ทำให้กลิ้งลิ้นได้ ถ้าเรามียีนเด่นนี้แค่ตัวเดียว เราก็จะมีลักษณะนั้นเลย
- ยีนด้อย (Recessive Gene): คือยีนที่ต้องมีอยู่ 2 ตัว (ทั้งจากคุณพ่อและคุณแม่) ถึงจะแสดงลักษณะออกมาได้ ถ้ามียีนด้อยแค่ตัวเดียว ก็จะไม่แสดงลักษณะนั้นออกมา แต่จะแฝงอยู่ในตัวเรา เหมือนกับมีของอยู่ในกระเป๋า แต่ยังไม่เอาออกมาให้เห็น
ยกตัวอย่างเรื่องตาบอดสี ซึ่งเป็นโรคทาง พันธุกรรม ที่มักจะพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เพราะยีนที่ควบคุมการมองเห็นสีจะอยู่บนโครโมโซมเพศหญิง (X) ถ้าคุณแม่มียีนตาบอดสีแฝงอยู่ (ซึ่งตัวแม่เองอาจจะไม่แสดงอาการ) แต่ถ้าลูกชายได้รับโครโมโซม X ที่มียีนผิดปกติจากแม่ไป ลูกชายก็มีโอกาสตาบอดสีได้เลยครับ ส่วนลูกสาวต้องได้รับยีนผิดปกติจากทั้งพ่อและแม่ถึงจะแสดงอาการ ซึ่งเกิดขึ้นได้ยากกว่าครับ
นี่แหละครับ คือเหตุผลว่าทำไมบางครั้งลักษณะบางอย่างถึงได้กระโดดข้ามรุ่น หรือทำไมพี่น้องถึงไม่เหมือนกันเป๊ะๆ ทั้งหมด เพราะการรวมตัวของยีนเด่นยีนด้อยมันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากๆ เลยครับ
รู้จัก "โรคทางพันธุกรรม" ใกล้ตัวกว่าที่คิด!
หลังจากที่เราเข้าใจแล้วว่ายีนกำหนดลักษณะของเราอย่างไร ทีนี้เรามาดูอีกมุมหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือเรื่องของ "โรคทางพันธุกรรม" ครับ
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า "โรคทางพันธุกรรม" หมายถึงโรคที่เกิดจากความผิดปกติของ "ยีน" หรือ "โครโมโซม" ที่ถูกถ่ายทอดมาจากคุณพ่อคุณแม่หรือบรรพบุรุษนั่นเองครับ ลองนึกภาพว่า ถ้าพิมพ์เขียว (ยีน) หรือแผนที่บ้าน (โครโมโซม) เกิดมีส่วนไหนผิดพลาดไป บ้าน (ร่างกายของเรา) ก็อาจจะทำงานไม่สมบูรณ์ หรือมีปัญหาบางอย่างได้
สิ่งสำคัญที่พี่อยากจะบอกก็คือ การเป็นโรคทาง พันธุกรรม ไม่ได้หมายความว่าน้องๆ จะเป็นคนไม่ปกติ หรือน่ากลัวเลยนะครับ มันเป็นเพียงความผิดปกติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ และเราสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน ดูแลตัวเอง หรือหาทางป้องกันได้ครับ
เมื่อยีนเกิด 'สะดุด': ที่มาของโรคทางพันธุกรรม
ความผิดปกติของยีนที่ทำให้เกิดโรคทาง พันธุกรรม อาจเกิดขึ้นได้หลายแบบครับ เช่น
- ยีนเดียวผิดปกติ: เหมือนมีคำสั่งในพิมพ์เขียวผิดไปแค่บรรทัดเดียว แต่ก็ส่งผลกระทบ เช่น โรคธาลัสซีเมีย (เป็นโรคที่เม็ดเลือดแดงผิดปกติ) โรคฮีโมฟีเลีย (เลือดออกง่ายหยุดยาก)
- หลายยีนผิดปกติร่วมกัน: เหมือนมีหลายๆ คำสั่งในพิมพ์เขียวผิดพลาดไปพร้อมๆ กัน ซึ่งอาจจะเกิดร่วมกับปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมด้วย เช่น โรคเบาหวานบางชนิด โรคหัวใจบางชนิด
- โครโมโซมผิดปกติ: เหมือนตู้เก็บเอกสาร (โครโมโซม) มีเอกสารขาดหายไป เกินมา หรือเรียงสลับที่กัน เช่น ดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome) (มีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง)
บางครั้ง คุณพ่อคุณแม่เองอาจจะมียีนที่ผิดปกติแฝงอยู่โดยไม่แสดงอาการเจ็บป่วยใดๆ แต่เมื่อยีนที่ผิดปกติจากทั้งพ่อและแม่มารวมกันในตัวน้องๆ ก็อาจจะทำให้เกิดโรคขึ้นมาได้ครับ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีการแนะนำให้คู่รักที่กำลังวางแผนมีบุตรไปปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจคัดกรองความเสี่ยงทาง พันธุกรรม เบื้องต้นครับ
ตัวอย่างโรคที่ควรรู้: ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
การรู้เท่าทันโรคต่างๆ เป็นสิ่งที่ดีเสมอครับ เพื่อให้เราสามารถดูแลตัวเองและคนที่รักได้อย่างเหมาะสม พี่ๆ จะยกตัวอย่าง โรค ทาง พันธุกรรม ที่พบบ่อยๆ หรือที่น้องๆ อาจจะเคยได้ยินชื่อมาบ้างนะครับ
-
โรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia):
- เป็น โรค เลือดจางทาง พันธุกรรม ที่พบได้บ่อยในประเทศไทย เกิดจากความผิดปกติของยีนที่สร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้เม็ดเลือดแดงเปราะ แตกง่าย
- ผู้ป่วยจะมีอาการซีด อ่อนเพลีย ตัวเหลือง ตาเหลือง บางรายอาจต้องให้เลือดเป็นประจำ
- แต่ก็มีหลายระดับความรุนแรงครับ บางคนเป็นพาหะ (มียีนแฝง) ก็ใช้ชีวิตได้ปกติ ไม่แสดงอาการเลยก็มี
-
โรคฮีโมฟีเลีย (Hemophilia):
- เป็น โรค ที่เลือดออกง่ายและหยุดยาก เกิดจากความผิดปกติของยีนที่สร้างโปรตีนช่วยในการแข็งตัวของเลือด
- มักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง และเป็นโรคที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษหากเกิดบาดแผล เพื่อป้องกันการเสียเลือดมากเกินไป
-
ภาวะพร่องเอนไซม์ G6PD (G6PD Deficiency):
- เป็น โรค ทาง พันธุกรรม ที่ร่างกายขาดเอนไซม์บางชนิด ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกง่ายเมื่อได้รับยาหรืออาหารบางประเภท เช่น ถั่วปากอ้า
- ผู้ป่วยส่วนใหญ่ใช้ชีวิตได้ปกติ เพียงแค่ต้องระมัดระวังในการกินยาและอาหารบางชนิดเท่านั้นครับ
-
ดาวน์ซินโดรม (Down Syndrome):
- เป็น โรค ที่เกิดจากความผิดปกติของจำนวนโครโมโซม (มีโครโมโซมคู่ที่ 21 เกินมา 1 แท่ง)
- ผู้ป่วยจะมีลักษณะทางกายภาพและพัฒนาการที่แตกต่างจากคนทั่วไป แต่ด้วยการดูแลที่เหมาะสม ผู้ป่วยดาวน์ซินโดรมจำนวนมากสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีคุณภาพที่ดีได้ครับ
เห็นไหมครับว่า โรค ทาง พันธุกรรม ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดเสมอไป บางโรคสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ เพียงแค่ต้องเข้าใจและรู้วิธีดูแลตัวเองให้ถูกต้องครับ
เราจะอยู่กับ "พันธุกรรม" และ "โรคทางพันธุกรรม" อย่างไรให้มีความสุข?
เมื่อเราเข้าใจเรื่อง พันธุกรรม และ โรค ที่มากับ ยีน มากขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่เราจะสามารถอยู่กับความรู้เหล่านี้ได้อย่างเข้าใจและมีความสุข ไม่ต้องกังวลจนเกินไปครับ
เข้าใจ รับมือ และดูแลตัวเองให้ดีที่สุด
สำหรับคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ สิ่งที่เราทำได้คือการเรียนรู้และเตรียมพร้อมครับ
-
ทำความเข้าใจ:
- หากในครอบครัวมีประวัติ โรค ทาง พันธุกรรม ลองพูดคุยสอบถามกับคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใหญ่ในบ้าน เพื่อให้เข้าใจถึงความเสี่ยงหรือลักษณะที่อาจมีการถ่ายทอด
- ศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้มีความรู้ที่ถูกต้องและไม่กังวลไปเองครับ
-
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ:
- หากคุณพ่อคุณแม่มีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยง โรค ทาง พันธุกรรม สำหรับน้องๆ การปรึกษาแพทย์หรือนักพันธุศาสตร์เป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ
- ปัจจุบันมีการตรวจคัดกรอง พันธุกรรม หลายวิธี ที่สามารถบอกความเสี่ยงหรือให้คำแนะนำในการดูแลได้ล่วงหน้า
-
ดูแลสุขภาพทั่วไป:
- ไม่ว่าเราจะมียีนแบบไหน การดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอคือสิ่งสำคัญที่สุดครับ
- กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อสุขภาพ ก็จะช่วยให้ร่างกายของเราทำงานได้เต็มที่ และลดความเสี่ยง โรค ต่างๆ ได้
พันธุกรรมไม่ใช่ชะตากรรม: เราเลือกที่จะดูแลได้
สิ่งที่พี่อยากให้น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่จำไว้เสมอคือ "พันธุกรรมไม่ใช่ชะตากรรม" ครับ แม้ว่ายีนจะกำหนดลักษณะพื้นฐานบางอย่างของเรา และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อ โรค บางอย่างได้ แต่เรามีพลังที่จะดูแลตัวเองและเลือกวิถีชีวิตที่ดีได้เสมอ
หลายๆ โรค แม้จะมีพื้นฐานทาง พันธุกรรม แต่ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็มีส่วนสำคัญมากๆ ครับ เช่น ถ้าในครอบครัวมีประวัติเบาหวาน แต่เราเลือกที่จะกินอาหารดี ออกกำลังกาย และควบคุมน้ำหนักได้ดี โอกาสที่จะเกิดโรคก็ลดลงได้อย่างมากเลยครับ
การเข้าใจเรื่องยีนและ พันธุกรรม ก็เหมือนกับการที่เรามีข้อมูลที่ดีเกี่ยวกับตัวเอง ทำให้เราสามารถวางแผนชีวิตและดูแลสุขภาพได้อย่างรอบคอบมากขึ้นครับ
ในท้ายที่สุดนี้ ไม่ว่าเราจะมียีนแบบไหน หรือได้รับ การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม แบบใดมา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการยอมรับในความแตกต่างของแต่ละคน และดูแลตัวเองให้ดีที่สุดในแบบที่เราเป็นครับ
บทสรุป: ไม่ต้องกลัวเรื่องยีน เพราะเราเข้าใจและรับมือได้
เป็นยังไงบ้างครับคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ หลังได้มาทำความรู้จักกับโลกของ "ยีน" และ "พันธุกรรม" อย่างง่ายๆ แบบนี้ พี่หวังว่าน้องๆ จะคลายความสงสัยและคุณพ่อคุณแม่จะคลายความกังวลใจลงไปได้มากเลยนะครับ
จะเห็นได้ว่า ยีน คือพิมพ์เขียวสำคัญที่กำหนดตัวเรา การ ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม จากพ่อแม่สู่ลูกคือกระบวนการธรรมชาติที่ทำให้เรามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่วนเรื่อง โรค ที่มากับ ยีน ก็เป็นเรื่องที่เราสามารถเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวหรือซับซ้อนอย่างที่คิดเลยครับ
ขอให้ทุกคนมั่นใจนะครับว่า ความรู้คือพลังที่จะช่วยให้เราอยู่กับทุกเรื่องได้อย่างมีความสุข และไม่ว่าเราจะมียีนแบบไหน หรือมีลักษณะทาง พันธุกรรม อย่างไร น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่คือคนที่ยอดเยี่ยมในแบบของตัวเองเสมอครับ หมั่นดูแลสุขภาพกายและใจให้แข็งแรงอยู่เสมอ แล้วทุกวันก็จะเป็นวันที่สดใสสำหรับทุกคนครับ!
และหากการวางแผนนี้ทำให้น้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าการตะลุยโจทย์วิทยาศาสตร์คือสิ่งสำคัญ ทีมงาน TidMor1 ขอแนะนำ "ข้อสอบเข้า ม.1 วิทยาศาสตร์ 3,000 ข้อ" ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสร้างความคุ้นเคยกับแนวข้อสอบที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ TidMor1.com นะครับ