เก่งมาก คำชมแบบไหนที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ลูก

เขียนโดย: ทีมงาน TidMor1 | เผยแพร่เมื่อ: 8 ตุลาคม 2568

คำชมสร้างแรงบันดาลใจ เลี้ยงลูกเชิงบวก เตรียมสอบเข้า ม.1

สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ และน้องๆ ชาว TidMor1 ทุกคนครับ! ในฐานะพี่ๆ ทีมงานที่คลุกคลีกับการศึกษาและจิตวิทยาของน้องๆ วัยประถมปลายมานาน เรามักจะได้ยินคำถามที่น่าสนใจจากคุณพ่อคุณแม่เสมอๆ ว่า "จะทำยังไงให้ลูกมีกำลังใจอ่านหนังสือ?" หรือ "ลูกไม่ค่อยมีแพชชั่นในการเรียนเลย ทำไงดี?"

เชื่อไหมครับว่า หนึ่งในเครื่องมือทรงพลังที่สุดที่เราทุกคนมีอยู่ในมือ และใช้มันได้ทุกวัน นั่นก็คือ "คำชม" ของเราเองนี่แหละครับ แต่คำชมไม่ใช่แค่การพูดว่า "เก่งมาก" ลอยๆ นะครับ เพราะคำชมที่แท้จริงนั้นมีพลังในการ คำชมสร้างแรงบันดาลใจ และหล่อหลอมทัศนคติการเรียนรู้ของน้องๆ ได้อย่างเหลือเชื่อ

วันนี้พี่ๆ TidMor1 จะพาคุณพ่อคุณแม่และน้องๆ มาสำรวจกันว่า คำชมแบบไหนกันแน่ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ไม่ใช่แค่ทำให้เด็กๆ รู้สึกดีชั่วคราว แต่เป็นการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้เรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง และพร้อมรับมือกับทุกความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 ครับ

ทำไมแค่ "เก่งมาก" ถึงไม่พอที่จะสร้างแรงบันดาลใจ?

ลองนึกภาพตามพี่นะครับ เวลาที่เราได้ยินใครชมว่า "เก่งจังเลย" หรือ "ฉลาดมาก" เราจะรู้สึกดี ใช่ไหมครับ? น้องๆ เองก็รู้สึกดีไม่ต่างกัน แต่คำชมแบบนี้แม้จะให้ความรู้สึกดีในระยะสั้น แต่ในระยะยาวกลับไม่ได้ช่วยให้เกิด คำชมสร้างแรงบันดาลใจ ที่ยั่งยืนเท่าไหร่เลย

  • โฟกัสที่ผลลัพธ์: คำชมที่เน้นแต่ผลลัพธ์ เช่น "ได้คะแนนเต็มเก่งจัง" ทำให้เด็กเข้าใจว่าคุณค่าของเขาขึ้นอยู่กับผลงานที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น เมื่อไหร่ที่ทำผิดพลาด หรือไม่ได้คะแนนดี ก็จะรู้สึกว่าตัวเองไม่เก่ง ไม่มีความสามารถ
  • ไม่เห็นถึงกระบวนการ: การชมว่า "เก่งมาก" ไม่ได้บอกเด็กว่าพวกเขาเก่งเพราะอะไร ทำให้พวกเขาไม่เข้าใจว่าความสำเร็จนั้นเกิดจากความพยายามหรือวิธีการแบบไหน พอเจอปัญหาที่ยากขึ้น ก็ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร เพราะไม่เคยถูกสอนให้มองเห็นคุณค่าของ 'กระบวนการ' ในการทำสิ่งต่างๆ
  • สร้างความกลัวความผิดพลาด: เมื่อเด็กถูกชมแต่เรื่องผลลัพธ์ พวกเขามักจะกลัวการทำผิดพลาด เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับคำชมอีก หรือกลัวว่าผู้ใหญ่จะมองว่าไม่เก่ง ทำให้ไม่กล้าลองสิ่งใหม่ๆ หรือเลือกที่จะทำเฉพาะสิ่งที่ตัวเองมั่นใจว่าจะทำได้ดีเท่านั้น
  • ลดแรงจูงใจภายใน: การชมที่เน้นแต่ความสามารถธรรมชาติ เช่น "หนูฉลาดอยู่แล้ว" อาจทำให้เด็กคิดว่าความสำเร็จเกิดจากพรสวรรค์ ไม่ใช่ความพยายาม ทำให้ขาดแรงจูงใจที่จะพยายามมากขึ้น เพราะเชื่อว่าทุกอย่างมาจากความสามารถที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด

ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการเปลี่ยนวิธีชมให้เป็นการ คำชมสร้างแรงบันดาลใจ ที่แท้จริง ซึ่งหมายถึงการชมที่ลึกซึ้งกว่าแค่ผลลัพธ์ แต่เป็นการชมที่มองเห็นไปถึงหัวใจของการเรียนรู้และพัฒนาการของน้องๆ ครับ

หลักการสำคัญของ "คำชมสร้างแรงบันดาลใจ" ที่ได้ผลจริง

เพื่อให้คำชมของเรามีพลังและ คำชมสร้างแรงบันดาลใจ ให้น้องๆ เติบโตอย่างมั่นคง พี่ๆ มี 7 หลักการง่ายๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทันทีครับ

1. ชมที่ 'กระบวนการ' ไม่ใช่แค่ 'ผลลัพธ์' (Process Over Outcome)

นี่คือหัวใจสำคัญของการชมที่สร้างแรงบันดาลใจเลยครับ แทนที่จะบอกว่า "ลูกได้คะแนนดีจัง เก่งมาก!" ให้ลองเปลี่ยนมาชมที่ความพยายามเบื้องหลังผลลัพธ์นั้นๆ เช่น "พี่เห็นหนูใช้เวลาทบทวนบทเรียนวิทย์อย่างละเอียดเลยนะ ไม่แปลกใจเลยที่ทำข้อสอบได้ดี" หรือ "แม้จะยังไม่ได้คะแนนเต็ม แต่การที่หนูพยายามทำความเข้าใจโจทย์ยากๆ เองแบบนี้ สุดยอดมากเลย!"

  • ทำไมนี่คือคำชมสร้างแรงบันดาลใจ? เพราะเป็นการบอกให้เด็กรู้ว่า ความสำเร็จไม่ได้มาจากการมีพรสวรรค์อย่างเดียว แต่มาจากการลงมือทำ ความพยายาม และวิธีการที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาควบคุมได้ ทำให้เขามีแนวคิดแบบเติบโต (Growth Mindset) ที่เชื่อว่าตัวเองพัฒนาได้เสมอ
  • ประโยชน์ที่น้องๆ ได้รับ: น้องๆ จะเรียนรู้ว่าการทำผิดพลาดไม่ใช่เรื่องล้มเหลว แต่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ทำให้ไม่ท้อถอยง่ายๆ และพร้อมที่จะลองผิดลองถูกเพื่อหาทางแก้ไข

2. ชมอย่าง 'เฉพาะเจาะจง' (Specific Praise)

แทนที่จะพูดว่า "วาดรูปสวยจัง" ลองระบุไปเลยว่าอะไรที่สวย เช่น "พี่ชอบวิธีที่หนูเลือกใช้สีฟ้าในรูปนี้จังเลย ทำให้ภาพดูสดใสขึ้นเยอะเลยนะ" หรือในการเรียน "หนูหาคำตอบเรื่องระบบสุริยะจากหลายๆ แหล่งข้อมูลเลยนะ พี่ว่าวิธีนี้น่าสนใจมากเลย" การชมที่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้น้องๆ เข้าใจว่าพฤติกรรมหรือการกระทำแบบไหนที่ได้รับการยอมรับ และควรทำต่อไป

  • ทำไมนี่คือคำชมสร้างแรงบันดาลใจ? เมื่อเด็กถูกชมอย่างเฉพาะเจาะจง พวกเขาจะรู้สึกว่าเราสังเกตเห็นความตั้งใจและรายละเอียดในการทำงานของพวกเขาจริงๆ ไม่ใช่แค่ชมตามมารยาท ทำให้รู้สึกมีคุณค่าและเข้าใจว่าต้องพัฒนาจุดไหน
  • ประโยชน์ที่น้องๆ ได้รับ: ช่วยให้น้องๆ รู้ว่าต้องพัฒนาหรือรักษาพฤติกรรมอะไรไว้ ทำให้มีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้นในการเรียนรู้และการใช้ชีวิต

3. ชมที่ 'ความพยายาม' และ 'ความอดทน' (Effort and Perseverance)

น้องๆ วัยประถมปลายกำลังเผชิญกับความท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 ที่ต้องใช้ความอดทนสูงมาก การชมความพยายามเป็นสิ่งสำคัญมาก เช่น "พี่เห็นว่าวันนี้หนูนั่งทำโจทย์คณิตศาสตร์ยากๆ ตั้งนาน ไม่ยอมแพ้เลย เก่งมากนะ" หรือ "ถึงแม้จะยังแก้โจทย์นี้ไม่ได้ แต่การที่หนูไม่ท้อถอยและพยายามค้นคว้าวิธีอื่นมาลอง สุดยอดไปเลยลูก"

  • ทำไมนี่คือคำชมสร้างแรงบันดาลใจ? คำชมแบบนี้สอนให้เด็กเห็นคุณค่าของการลงมือทำ ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์สุดท้าย ทำให้พวกเขามีความยืดหยุ่นทางความคิด (Resilience) และกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความยากลำบาก
  • ประโยชน์ที่น้องๆ ได้รับ: สร้างความเชื่อมั่นว่าความพยายามจะนำไปสู่ความสำเร็จ ไม่ว่าจะเจอกับอุปสรรคใดๆ ก็ตาม

4. ชมเมื่อ 'เห็นจริงๆ' ไม่ใช่แค่พูดไปงั้นๆ (Authentic Praise)

คำชมที่มีพลังที่สุดคือคำชมที่มาจากความรู้สึกจริงจังและสังเกตเห็นจริงๆ คุณพ่อคุณแม่ควรชมเมื่อเห็นพฤติกรรมที่น่าชื่นชมจริงๆ ไม่ใช่การชมพร่ำเพรื่อ หรือชมแบบไม่มีเหตุผล เพราะเด็กๆ รับรู้ได้ว่าคำชมนั้นจริงใจแค่ไหน การชมที่มากเกินไปหรือไม่มีความจริงใจจะทำให้คำชมด้อยค่าลง และเด็กจะไม่เชื่อถือในสิ่งที่เราพูด

  • ทำไมนี่คือคำชมสร้างแรงบันดาลใจ? คำชมที่จริงใจจะส่งพลังบวกอย่างแท้จริง เพราะเด็กสัมผัสได้ถึงความใส่ใจและมองเห็นคุณค่าในตัวเขา
  • ประโยชน์ที่น้องๆ ได้รับ: เสริมสร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง เพราะรู้ว่าคุณค่าของเขาไม่ได้มาจากการเสแสร้ง แต่มาจากสิ่งที่เขาเป็นและสิ่งที่เขาทำจริงๆ

5. ชม 'ความก้าวหน้าเล็กๆ น้อยๆ' (Celebrating Small Wins)

บางครั้งน้องๆ อาจจะยังไม่สามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้สำเร็จทันที การชมความก้าวหน้าเล็กๆ น้อยๆ จะช่วยให้พวกเขามีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อไป เหมือนกับการค่อยๆ สร้างบันไดทีละขั้นสู่ความสำเร็จ เช่น "วันนี้หนูจำศัพท์ภาษาอังกฤษได้เพิ่มขึ้นอีก 5 คำแล้วนะ แม้จะดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ถ้าทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ รับรองว่าเก่งขึ้นเยอะเลย" หรือ "เมื่อวานหนูยังทำโจทย์เรื่องนี้ไม่ได้เลย แต่วันนี้ลองอีกครั้งก็เข้าใจขึ้นเยอะแล้ว นี่คือความก้าวหน้าที่ดีมากๆ เลยนะลูก"

  • ทำไมนี่คือคำชมสร้างแรงบันดาลใจ? เป็นการให้กำลังใจในระหว่างทาง ทำให้น้องๆ ไม่ท้อถอยกลางคัน และเห็นว่าการพัฒนาเป็นกระบวนการต่อเนื่อง
  • ประโยชน์ที่น้องๆ ได้รับ: สร้างความเชื่อมั่นว่าพวกเขาสามารถพัฒนาได้เสมอ และมองเห็นคุณค่าของการเรียนรู้แบบค่อยเป็นค่อยไป

6. หลีกเลี่ยงการชมเปรียบเทียบ (Avoid Comparative Praise)

การชมลูกโดยเปรียบเทียบกับคนอื่น เช่น "ลูกเก่งกว่าเพื่อนคนนั้นอีกนะ" แม้จะดูเหมือนเป็นการชม แต่จริงๆ แล้วกลับสร้างผลเสียในระยะยาว เพราะเด็กอาจรู้สึกกดดันหรือคิดว่าคุณค่าของตัวเองขึ้นอยู่กับการเอาชนะคนอื่น ไม่ใช่การพัฒนาตัวเอง การชมที่แท้จริงควรเปรียบเทียบกับตัวเด็กเองในอดีตเท่านั้น เช่น "เมื่อก่อนหนูยังไม่แม่นเรื่องนี้เลยนะ ตอนนี้ทำได้ดีขึ้นเยอะเลย" หรือ "หนูพัฒนาเรื่องการแก้ปัญหาได้เร็วขึ้นกว่าเมื่อเดือนก่อนมากเลย"

  • ทำไมนี่คือคำชมสร้างแรงบันดาลใจ? การชมที่ไม่เปรียบเทียบช่วยให้น้องๆ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาศักยภาพของตัวเองอย่างแท้จริง และเห็นคุณค่าในสิ่งที่ตนเองเป็น
  • ประโยชน์ที่น้องๆ ได้รับ: ลดความกดดันจากการแข่งขันที่ไม่จำเป็น และส่งเสริมให้พวกเขารักการเรียนรู้เพื่อตัวเขาเอง

7. ชมที่ 'ทัศนคติที่ดี' และ 'การเลือกที่ดี' (Praising Positive Attitude and Good Choices)

นอกจากผลการเรียนแล้ว การชมทัศนคติที่ดีของน้องๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่น "พี่ชอบที่หนูไม่ยอมแพ้เวลาเจอโจทย์ยากๆ เลยนะ ใจสู้มากๆ" หรือ "การที่หนูเลือกที่จะแบ่งปันขนมให้เพื่อน ทั้งๆ ที่อยากเก็บไว้กินคนเดียว พี่ภูมิใจในตัวหนูมากเลย" การชมเหล่านี้ช่วยเสริมสร้าง EQ และทักษะชีวิตที่จำเป็น

  • ทำไมนี่คือคำชมสร้างแรงบันดาลใจ? เป็นการเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมควบคู่ไปกับการเรียนรู้ ทำให้เด็กเติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพทั้งความรู้และจิตใจ
  • ประโยชน์ที่น้องๆ ได้รับ: พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ และสร้างมุมมองเชิงบวกต่อตัวเองและโลก

ตัวอย่างคำชมที่สร้างแรงบันดาลใจในสถานการณ์ต่างๆ

เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่และน้องๆ เห็นภาพชัดเจนขึ้น ลองดูตัวอย่างเหล่านี้เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันนะครับ

สถานการณ์การเรียนและการเตรียมสอบ

  • แทนที่จะพูดว่า: "ได้เกรด A เก่งจัง!"
  • ลองเปลี่ยนเป็น: "พี่เห็นหนูทุ่มเทกับการเตรียมตัวสอบวิทย์มากเลยนะ ทั้งอ่านหนังสือ ทำสรุป และตะลุยโจทย์ ไม่แปลกใจเลยที่ทำข้อสอบได้ดีแบบนี้ ความพยายามของหนูมันยอดเยี่ยมจริงๆ!"
  • แทนที่จะพูดว่า: "ทำไมยังทำโจทย์ข้อนี้ไม่ได้อีก!"
  • ลองเปลี่ยนเป็น: "โจทย์ข้อนี้ยากจริงๆ นั่นแหละ แต่พี่เห็นหนูไม่ท้อเลยนะ พยายามคิดวิเคราะห์หลายรอบมาก หรือลองย้อนกลับไปดูแนวคิดจากบทก่อนๆ ด้วย พยายามขนาดนี้เดี๋ยวก็ต้องทำได้แน่นอน!"
  • แทนที่จะพูดว่า: "ลูกจำได้หมดเลย ฉลาดมาก!"
  • ลองเปลี่ยนเป็น: "หนูมีเทคนิคการจำที่น่าสนใจมากเลยนะ จดเป็น Mind Map แบบนี้เข้าใจง่ายดีจัง ทำให้พี่เข้าใจไปด้วยเลย นี่แหละคือวิธีที่ทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพ!"

สถานการณ์ทั่วไปและพัฒนาการส่วนตัว

  • แทนที่จะพูดว่า: "เรียบร้อยจังเลย"
  • ลองเปลี่ยนเป็น: "วันนี้พี่เห็นหนูจัดห้องนอนเรียบร้อยมากเลยนะ จัดเก็บของเข้าที่อย่างเป็นระเบียบสุดๆ เลย เยี่ยมมากจ้ะ!"
  • แทนที่จะพูดว่า: "ลูกช่วยเหลือแม่เก่งมาก"
  • ลองเปลี่ยนเป็น: "ขอบคุณมากนะลูก ที่ช่วยแม่ยกของหนักๆ นี่ หนูไม่ต้องรอให้แม่บอกก็รีบมาช่วยเลย นี่แหละที่เรียกว่ามีน้ำใจ เห็นแก่ส่วนรวมมากๆ เลย"
  • แทนที่จะพูดว่า: "เก่งทุกเรื่องเลย"
  • ลองเปลี่ยนเป็น: "พี่รู้ว่าหนูพยายามปรับปรุงเรื่องการบริหารเวลามาตลอดนะ และวันนี้พี่เห็นว่าหนูวางแผนตารางอ่านหนังสือได้ดีขึ้นมากเลยนะ และทำตามแผนได้ด้วย นี่คือความก้าวหน้าที่น่าภูมิใจมากๆ เลย!"

คำชมสร้างแรงบันดาลใจ กับน้องๆ วัย ป.6 - ม.1

น้องๆ ในวัยประถมปลายกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ทั้งการเติบโตทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา และแน่นอนว่าความท้าทายที่รออยู่คือการเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 ซึ่งเป็นเหมือนด่านแรกที่จะก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ขึ้น คำชมที่ถูกต้องในวัยนี้จึงสำคัญมากๆ ครับ

ในช่วงวัยนี้ น้องๆ เริ่มที่จะมองหาคุณค่าในตัวเองจากภายในมากขึ้น และเริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนๆ การได้รับ คำชมสร้างแรงบันดาลใจ ที่เน้นกระบวนการ ความพยายาม และความก้าวหน้า จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในตนเอง (Self-esteem) และสร้างแนวคิดที่ว่า "ฉันสามารถพัฒนาได้" แทนที่จะคิดว่า "ฉันทำไม่ได้เพราะฉันไม่เก่ง"

เมื่อน้องๆ รู้สึกว่าความพยายามของพวกเขาได้รับการมองเห็นและชื่นชมอย่างจริงใจ พวกเขาจะมีกำลังใจที่จะเผชิญหน้ากับโจทย์ยากๆ ในการเตรียมสอบเข้า ม.1 ไม่ว่าจะเป็นวิชาคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน หรือวิทยาศาสตร์ที่ต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์ พวกเขาจะกล้าที่จะลองผิดลองถูก และมองความผิดพลาดเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ ไม่ใช่ความล้มเหลว

และที่สำคัญคือ การชมอย่างถูกต้องจะช่วยให้พวกเขาไม่เพียงแต่เก่งขึ้นในเรื่องเรียนเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนา EQ (Emotional Quotient) หรือความฉลาดทางอารมณ์ ให้เป็นคนที่รู้จักจัดการกับความผิดหวัง มีความอดทน และมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิต ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญยิ่งกว่าคะแนนสอบเสียอีกครับ

สิ่งที่ควรระวังเมื่อใช้ "คำชมสร้างแรงบันดาลใจ"

แม้คำชมจะมีพลังมหาศาล แต่ก็มีข้อควรระวังเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจ เพื่อให้คำชมของเราไม่กลายเป็นดาบสองคมนะครับ

  • อย่าชมพร่ำเพรื่อ: การชมทุกเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ จนเกินไป อาจทำให้คำชมไม่มีความหมาย และน้องๆ อาจไม่เห็นคุณค่าของคำชมนั้น
  • อย่าชมแบบมีเงื่อนไข: หลีกเลี่ยงการชมที่มาพร้อมกับเงื่อนไข เช่น "ถ้าลูกทำได้แบบนี้ตลอดนะ แม่จะภูมิใจมาก" เพราะจะทำให้เด็กรู้สึกว่าความรักและคำชมขึ้นอยู่กับผลงานเท่านั้น
  • อย่าชมจนกดดัน: บางครั้งคำชมก็สร้างความกดดันได้ เช่น "หนูเก่งที่สุดในโลกเลยนะ" คำพูดแบบนี้อาจทำให้น้องๆ รู้สึกว่าต้องรักษามาตรฐานความเป็นที่หนึ่งตลอดเวลา และกลัวความผิดพลาด
  • ระวังน้ำเสียงและภาษากาย: คำชมที่ดีต้องมาพร้อมกับน้ำเสียงที่จริงใจและภาษากายที่แสดงถึงความชื่นชมอย่างแท้จริง การชมส่งๆ หรือชมแบบไม่ใส่ใจ อาจส่งผลตรงกันข้ามได้

บทสรุป: สร้างพลังบวกด้วยคำชมที่ถูกวิธี

การเลี้ยงดูลูกในยุคสมัยนี้เต็มไปด้วยความท้าทาย โดยเฉพาะเมื่อน้องๆ กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงสำคัญของการเปลี่ยนผ่านจากประถมสู่มัธยม การเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 ไม่ใช่แค่เรื่องของความรู้ทางวิชาการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความพร้อมทางด้านจิตใจ ทัศนคติ และแรงจูงใจในการเรียนรู้

พี่ๆ หวังว่าบทความนี้จะช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้คุณพ่อคุณแม่และน้องๆ ได้เข้าใจพลังของ คำชมสร้างแรงบันดาลใจ ที่แท้จริง การเปลี่ยนแปลงวิธีชมลูกเพียงเล็กน้อย ด้วยการโฟกัสที่กระบวนการ ความพยายาม ความก้าวหน้า และทัศนคติที่ดี จะช่วยเสริมสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับน้องๆ ได้อย่างยั่งยืน

จำไว้เสมอนะครับว่า หน้าที่ของเราไม่ใช่แค่ชี้ทางให้เห็นความสำเร็จ แต่คือการเป็นกำลังใจที่อยู่ข้างๆ ทุกย่างก้าวของการเติบโต ไม่ว่าน้องๆ จะทำอะไรก็ตาม ขอแค่มีความพยายาม ไม่ย่อท้อ และมีทัศนคติที่ดี นั่นแหละคือสิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดแล้วครับ!

และหากการวางแผนนี้ทำให้น้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าการตะลุยโจทย์วิทยาศาสตร์คือสิ่งสำคัญ ทีมงาน TidMor1 ขอแนะนำ "ข้อสอบเข้า ม.1 วิทยาศาสตร์ 3,000 ข้อ" ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสร้างความคุ้นเคยกับแนวข้อสอบที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ TidMor1.com นะครับ