วิธีให้รางวัลตัวเองเมื่อทำตามแผนได้สำเร็จ

เขียนโดย: ทีมงาน TidMor1 | เผยแพร่เมื่อ: 22 กันยายน 2568

ให้รางวัลความสำเร็จ การเรียน แรงจูงใจ

น้องๆ ป.6 หรือ ม.1 ที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้าโรงเรียนในฝัน เหนื่อยกันบ้างไหมครับ? หรือคุณพ่อคุณแม่ที่คอยเฝ้าดูน้องๆ ตั้งใจเรียนอยู่ข้างๆ กังวลบ้างไหมว่าลูกจะท้อแท้ไปเสียก่อน?

การเรียนหนังสือ โดยเฉพาะการเตรียมสอบใหญ่ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องของการนั่งอ่าน หรือนั่งทำโจทย์อย่างเดียวครับ แต่มันคือการเดินทางที่ต้องใช้ทั้งความพยายาม ความอดทน และที่สำคัญที่สุดคือ 'กำลังใจ' และ 'แรงฮึด' ที่ไม่หมดลงไปเสียก่อน

หลายครั้งที่เราเห็นน้องๆ ตั้งใจอ่านหนังสือ ตั้งใจทำโจทย์ ทำตามแผนที่วางไว้ได้สำเร็จ แต่บางทีก็เหมือนลืมที่จะเติมพลังให้ตัวเอง หรือคุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะลืมนึกถึงพลังเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยหล่อเลี้ยงหัวใจดวงน้อยๆ ให้ไปต่อได้

วันนี้ทีมงาน TidMor1 ในฐานะพี่ๆ ที่เข้าใจหัวอกน้องๆ และคุณพ่อคุณแม่ดี จะมาบอกเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยให้น้องๆ มีแรงใจไปต่อได้เรื่อยๆ นั่นก็คือ “วิธีให้รางวัลตัวเองเมื่อทำตามแผนได้สำเร็จ” หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า การ ให้รางวัลความสำเร็จ นั่นเองครับ ซึ่งนี่แหละคือสุดยอดเทคนิคที่จะช่วยให้การเรียนสนุกขึ้น และยั่งยืนกว่าเดิม!

ทำไมการให้รางวัลตัวเองถึงสำคัญกว่าที่คิด?

หลายคนอาจคิดว่า "เรียนก็คือเรียน จะต้องมีรางวัลอะไรมากมาย?" แต่พี่อยากให้น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่ลองมองมุมใหม่ครับ การ ให้รางวัลความสำเร็จ ไม่ใช่แค่เรื่องของการติดสินบน หรือการสร้างความฟุ่มเฟือย แต่มันคือกลไกสำคัญในการสร้างแรงจูงใจเชิงบวก และพัฒนาวินัยในระยะยาวเลยทีเดียว

  • สร้างแรงจูงใจและเป้าหมายที่ชัดเจน: เมื่อน้องๆ มีเป้าหมายเล็กๆ ที่ต้องทำให้สำเร็จ เช่น อ่านหนังสือจบ 1 บท หรือทำโจทย์วิทย์ 50 ข้อ การรู้ว่าจะมีรางวัลรออยู่จะช่วยกระตุ้นให้น้องๆ มีแรงฮึดและอยากทำให้สำเร็จ เพื่อไปถึงรางวัลที่รออยู่
  • ตอกย้ำความพยายามและสร้างความภาคภูมิใจ: รางวัลที่ได้รับคือเครื่องยืนยันว่า "ฉันทำได้นะ!" นี่คือการตอกย้ำว่าความพยายามของน้องๆ ไม่ได้สูญเปล่า มันช่วยสร้างความภาคภูมิใจในตัวเอง และความเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเอง
  • ลดความเครียดและป้องกันความเหนื่อยหน่าย: การเรียนเป็นเรื่องที่ต้องใช้พลังงานสูง ทั้งพลังกายและพลังใจ การได้พักผ่อนหรือทำกิจกรรมที่ชอบเป็นรางวัล จะช่วยให้น้องๆ ได้ผ่อนคลายความเครียด และกลับมาเริ่มต้นใหม่ด้วยความสดชื่น ไม่รู้สึกว่าการเรียนเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายจนเกินไป
  • พัฒนาวินัยและความรับผิดชอบ: การตั้งเป้าหมาย ทำตามแผน และได้รับรางวัลตามที่ตกลงกันไว้ จะสอนให้น้องๆ รู้จักวินัยในตนเอง การวางแผน และการรับผิดชอบต่อเป้าหมายที่ตั้งไว้ และเมื่อพวกเขาเห็นผลลัพธ์ของความพยายามในรูปแบบของรางวัล พวกเขาก็จะยิ่งมีกำลังใจที่จะทำเช่นนั้นต่อไปเรื่อยๆ
  • ส่งเสริมทัศนคติเชิงบวกต่อการเรียนรู้: เมื่อการเรียนรู้ถูกเชื่อมโยงกับประสบการณ์เชิงบวกและรางวัลที่ดี น้องๆ ก็จะมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนมากขึ้น มองว่าการเรียนเป็นเรื่องที่น่าสนุกและคุ้มค่าที่จะลงมือทำ แทนที่จะมองว่าเป็นภาระที่ต้องแบกรับ

รางวัลมีกี่แบบ? เลือกแบบไหนดีให้น้องๆ ฟินที่สุด?

รางวัลไม่ได้มีแค่สิ่งของราคาแพงเสมอไปครับ จริงๆ แล้วมีรางวัลหลายประเภทที่เราสามารถนำมาใช้ในการ ให้รางวัลความสำเร็จ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองมาดูกันว่ามีแบบไหนบ้าง

1. รางวัลที่จับต้องได้ (Tangible Rewards)

รางวัลประเภทนี้คือสิ่งที่น้องๆ ได้รับมาเป็นชิ้นเป็นอัน หรือเป็นประสบการณ์ที่ได้สัมผัส ซึ่งมักจะสร้างความตื่นเต้นและเห็นผลได้ทันที

  • ของใช้เล็กๆ น้อยๆ ที่อยากได้: อาจจะเป็นอุปกรณ์การเรียนน่ารักๆ เช่น ปากกาสีสวยๆ สมุดโน้ตลายโปรด หรือแม้แต่ของเล่นเล็กๆ น้อยๆ ที่น้องๆ เก็บเงินซื้อเองไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้มีมูลค่าสูงจนเกินไป เช่น หุ่นฟิกเกอร์ตัวเล็กๆ หรือโมเดลชิ้นใหม่ๆ
  • ประสบการณ์สนุกๆ: ลองพาน้องๆ ไปดูหนังเรื่องที่อยากดู ไปสวนสนุก สวนสัตว์ หรือพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ การได้ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านเป็นสิ่งที่น้องๆ ชื่นชอบ และยังได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวอย่างมีคุณภาพอีกด้วย
  • อาหารหรือขนมโปรด: ง่ายที่สุดและได้ผลเสมอ! การได้กินไอติมรสโปรด พิซซ่าถาดใหญ่ หรือชาไข่มุกแก้วโปรดหลังจากทำตามแผนได้สำเร็จ เป็นเหมือนการฉลองชัยชนะเล็กๆ ที่ทำให้น้องๆ รู้สึกดีทันที
  • เวลาส่วนตัวที่เพิ่มขึ้น: เช่น ได้เล่นเกมเพิ่ม 30 นาที ได้ดูการ์ตูนเรื่องโปรดเพิ่ม 1 ตอน หรือได้อยู่ดึกขึ้นอีกนิดในวันศุกร์ (ภายใต้การดูแลของคุณพ่อคุณแม่)

สิ่งสำคัญสำหรับรางวัลที่จับต้องได้คือ "ความเหมาะสม" ครับ ไม่ควรเป็นของที่มีมูลค่าสูงจนเกินไป และควรเชื่อมโยงกับความพยายามที่น้องๆ ได้ลงมือทำ ไม่ใช่แค่การให้ไปเรื่อยๆ โดยไม่มีเงื่อนไข

2. รางวัลทางใจที่ยิ่งใหญ่ (Intangible Rewards)

แม้จะจับต้องไม่ได้ แต่รางวัลทางใจกลับมีพลังมหาศาลในการสร้างกำลังใจและความภาคภูมิใจให้กับน้องๆ และเป็นส่วนสำคัญในการ ให้รางวัลความสำเร็จ ที่ยั่งยืน

  • คำชมเชยที่จริงใจ: "เก่งมากเลยลูก! แม่ภูมิใจในตัวหนูมากเลยนะที่หนูพยายามขนาดนี้" "พ่อเห็นความตั้งใจของลูกแล้ว สุดยอดจริงๆ!" คำพูดเหล่านี้มีความหมายมากกว่าสิ่งของใดๆ เพราะมันคือการยอมรับและเห็นคุณค่าในตัวน้องๆ
  • การให้ความไว้วางใจและอิสระ: เช่น อนุญาตให้น้องๆ ได้วางแผนกิจกรรมวันหยุดเอง ได้เลือกเมนูอาหารสำหรับมื้อเย็น หรือให้รับผิดชอบงานบ้านเล็กๆ ที่น้องๆ สนใจ การได้รับความไว้วางใจจะช่วยให้น้องๆ รู้สึกมีคุณค่าและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
  • เวลาคุณภาพกับครอบครัว: การที่พ่อแม่ได้ใช้เวลากับน้องๆ อย่างเต็มที่ เช่น อ่านหนังสือนิทานก่อนนอนด้วยกัน เล่นบอร์ดเกมด้วยกัน หรือแค่นั่งคุยกันเรื่องราวในแต่ละวัน สิ่งเหล่านี้คือรางวัลที่มีคุณค่าทางใจอย่างมาก
  • ความรู้สึกภูมิใจในตัวเอง: นี่คือรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครับ เมื่อน้องๆ ทำสำเร็จด้วยตัวเอง เขาจะรู้สึกถึงความสามารถของตัวเอง และนี่คือรากฐานสำคัญของการมี Self-esteem ที่ดี

รางวัลทางใจเหล่านี้มักจะส่งผลต่อความรู้สึกในระยะยาว และช่วยสร้างความผูกพันที่ดีภายในครอบครัวด้วยครับ

จะเลือกรางวัลแบบไหนให้น้องๆ ฟินที่สุด?

การเลือกรางวัลให้โดนใจน้องๆ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่จะให้แบบสุ่มสี่สุ่มห้าครับ คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาสิ่งเหล่านี้เพื่อการ ให้รางวัลความสำเร็จ ที่ตรงใจและได้ผล

  • คำนึงถึงเป้าหมายและความพยายาม: รางวัลควรสอดคล้องกับขนาดของความสำเร็จ เช่น หากน้องๆ ทำโจทย์ยากได้ 10 ข้อ อาจจะได้พักเบรกสั้นๆ หรือขนมเล็กๆ น้อยๆ แต่ถ้าอ่านหนังสือจบทั้งบท หรือทำข้อสอบเก่าได้คะแนนดีเยี่ยม อาจจะได้รางวัลที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย เช่น ไปดูหนัง หรือซื้อหนังสือที่อยากได้
  • ความชอบส่วนตัวของน้องๆ: สิ่งสำคัญที่สุดคือรางวัลนั้นต้องเป็นสิ่งที่น้องๆ อยากได้จริงๆ ครับ ลองชวนน้องๆ คุย หรือสังเกตว่าช่วงนี้น้องๆ สนใจอะไรเป็นพิเศษ จะเป็นของเล่น, กิจกรรม, หรือแม้แต่อาหาร
  • ให้โอกาสน้องๆ ได้ร่วมเลือก: การให้น้องๆ ได้มีส่วนร่วมในการเลือกรางวัลเอง จะทำให้น้องๆ รู้สึกเป็นเจ้าของเป้าหมายและมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จมากขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่เขาเลือกเองกับมือ
  • ความเหมาะสมของรางวัล: อย่าให้รางวัลที่ขัดกับการเรียนรู้หรือสุขภาพของน้องๆ เช่น การเล่นเกมแบบไร้ขีดจำกัด หรือกินขนมหวานมากเกินไป ควรมีการกำหนดขอบเขตที่ชัดเจน
  • ความยืดหยุ่น: ความสนใจของเด็กๆ เปลี่ยนแปลงได้เสมอ รางวัลที่เคยเวิร์คเมื่อเดือนที่แล้ว อาจจะไม่ได้ผลในวันนี้ คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดใจที่จะปรับเปลี่ยนประเภทของรางวัลให้เข้ากับความสนใจและวัยของน้องๆ

วางแผนระบบ ให้รางวัลความสำเร็จ แบบไหนดี?

เพื่อให้การให้รางวัลเป็นไปอย่างมีระบบและยั่งยืน ไม่ใช่แค่การให้แบบนานๆ ครั้ง หรือให้เมื่อนึกได้ คุณพ่อคุณแม่และน้องๆ สามารถร่วมกันสร้าง "ระบบรางวัล" ของตัวเองขึ้นมาได้ครับ

1. แบ่งเป้าหมายเล็กๆ แล้วให้รางวัล

การเตรียมสอบเข้า ม.1 เป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ อาจจะดูน่ากลัวสำหรับน้องๆ ดังนั้น การแบ่งเป้าหมายใหญ่ออกเป็นเป้าหมายย่อยๆ และให้รางวัลเมื่อทำสำเร็จในแต่ละขั้น จะช่วยให้น้องๆ รู้สึกว่าทำได้จริงและมีกำลังใจไปต่อ

  • เป้าหมายรายวัน/รายสัปดาห์: เช่น "วันนี้อ่านวิชาคณิตศาสตร์จบ 20 หน้า" หรือ "สัปดาห์นี้ทำโจทย์วิทยาศาสตร์ได้ครบ 100 ข้อ" เมื่อทำได้ ก็ให้รางวัลเล็กๆ เช่น ได้พักเบรก 15 นาที หรือดู YouTube ที่ชอบ 1 ตอน
  • เป้าหมายรายเดือน/รายบท: "ทำข้อสอบบทที่ 3 วิชาภาษาอังกฤษได้ 80%" หรือ "อ่านหนังสือครบ 3 บท" รางวัลอาจจะใหญ่ขึ้นมาหน่อย เช่น ได้ไปกินข้าวที่ร้านโปรดทั้งครอบครัว หรือได้ซื้อหนังสือการ์ตูนเล่มใหม่
  • เป้าหมายระยะยาว/ปลายทาง: "สอบเข้าโรงเรียนในฝันได้" อันนี้รางวัลต้องยิ่งใหญ่และน่าจดจำแน่นอน เช่น ไปเที่ยวต่างจังหวัด, ซื้อแท็บเล็ตเครื่องใหม่ หรือได้ทำกิจกรรมที่รอคอยมานาน

การมองเห็นความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างทาง จะเป็นเชื้อเพลิงที่หล่อเลี้ยงให้น้องๆ มีแรงใจมุ่งหน้าสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่า

2. ความสม่ำเสมอคือหัวใจ

การ ให้รางวัลความสำเร็จ จะได้ผลดีที่สุดเมื่อคุณพ่อคุณแม่มีความสม่ำเสมอในการให้รางวัลตามที่ตกลงกันไว้ ไม่ใช่ให้ๆ หยุดๆ หรือลืมไปเสียเฉยๆ เพราะสิ่งนี้จะสอนให้น้องๆ รู้ว่าความพยายามของเขามีค่า และมีคนเห็นคุณค่าความพยายามนั้น

  • ทำตามสัญญา: เมื่อตกลงรางวัลกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอะไร คุณพ่อคุณแม่ต้องรักษาสัญญาเสมอ เพื่อสร้างความเชื่อใจและให้น้องๆ เห็นว่าการทำตามเป้าหมายแล้วได้รับรางวัลเป็นเรื่องจริง
  • อย่ากดดันมากเกินไป: หากน้องๆ ทำไม่สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในบางครั้ง อย่าเพิ่งลงโทษหรือกดดันจนเกินไปครับ ให้กำลังใจและช่วยกันหาสาเหตุ พร้อมปรับแผนให้เหมาะสมในครั้งต่อไป
  • บันทึกความก้าวหน้า: อาจจะทำเป็นตารางสติ๊กเกอร์สะสมแต้ม หรือสมุดบันทึกเล็กๆ ให้น้องๆ ได้ติดดาวหรือระบายสีเมื่อทำตามแผนได้สำเร็จ การได้เห็นภาพความก้าวหน้าของตัวเอง จะยิ่งทำให้น้องๆ มีความสุขและอยากทำต่อไป

ประโยชน์ของการให้รางวัล...มากกว่าแค่แรงจูงใจ!

นอกจากจะเป็นเครื่องมือในการสร้างแรงจูงใจแล้ว การ ให้รางวัลความสำเร็จ ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่ส่งผลต่อพัฒนาการของน้องๆ ทั้งทางด้านการเรียนรู้ อารมณ์ และทักษะชีวิต

  • พัฒนาทักษะการวางแผนและการจัดการ: เมื่อน้องๆ รู้ว่าถ้าทำตามแผนแล้วจะได้รางวัล พวกเขาจะเริ่มเรียนรู้ที่จะวางแผนการเรียนของตัวเอง จัดการเวลา และจัดลำดับความสำคัญ เพื่อให้สามารถทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้สำเร็จ
  • ส่งเสริมความนับถือตนเอง (Self-esteem): ทุกครั้งที่น้องๆ ทำสำเร็จและได้รับรางวัล ไม่ว่าจะเป็นคำชมเชยหรือของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มันคือการสร้างความรู้สึกเชิงบวกให้กับตัวเอง ว่าฉันมีความสามารถ ฉันทำได้ดี สิ่งนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจและความนับถือตนเองให้กับน้องๆ ได้เป็นอย่างดี
  • เรียนรู้คุณค่าของความพยายาม: รางวัลที่ได้รับไม่ได้มาฟรีๆ แต่มันมาจากการลงมือทำและความพยายามอย่างสม่ำเสมอ น้องๆ จะเรียนรู้ว่าทุกความสำเร็จต้องแลกมาด้วยความทุ่มเท และจะเข้าใจถึงคุณค่าของการทำงานหนัก
  • สร้างความสัมพันธ์เชิงบวกในครอบครัว: การที่พ่อแม่ให้ความสำคัญกับการให้รางวัลและชื่นชมความพยายามของลูก จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในบ้าน ความเข้าใจและความผูกพันระหว่างสมาชิกในครอบครัวก็จะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
  • เตรียมพร้อมสำหรับชีวิตจริง: ในชีวิตจริง การทำงานให้สำเร็จก็มักจะมีรางวัลหรือผลตอบแทนตามมา ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน โบนัส หรือการได้เลื่อนตำแหน่ง การเรียนรู้ที่จะทำงานเพื่อเป้าหมายและได้รับรางวัล เป็นการฝึกให้น้องๆ เข้าใจโลกของการทำงานในอนาคตอีกด้วย

ข้อควรระวัง: ให้รางวัลความสำเร็จ อย่างไรไม่ให้เป็นดาบสองคม?

แม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่การให้รางวัลก็เหมือนเหรียญสองด้านครับ หากใช้อย่างไม่เหมาะสม ก็อาจจะสร้างผลเสียได้ คุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังประเด็นเหล่านี้:

  • ไม่ควรให้รางวัลทุกครั้งที่ทำตามหน้าที่ปกติ: การเรียนเป็นหน้าที่หลักของน้องๆ การให้รางวัลควรใช้เพื่อกระตุ้นให้เกิดความพยายามพิเศษ หรือเมื่อทำเป้าหมายที่ท้าทายได้สำเร็จ ไม่ใช่เพื่อการทำตามหน้าที่พื้นฐาน
  • หลีกเลี่ยงการติดสินบน: "ถ้าได้เกรดดี จะซื้อ iPhone ให้" การให้รางวัลลักษณะนี้อาจทำให้น้องๆ เรียนเพื่อวัตถุประสงค์ภายนอกเท่านั้น และลดทอนความรักในการเรียนรู้ที่มาจากภายใน (Intrinsic Motivation) รางวัลควรเป็นตัวเสริม ไม่ใช่ตัวขับเคลื่อนหลัก
  • อย่าเปรียบเทียบกับคนอื่น: การให้รางวัลควรเน้นที่พัฒนาการและความพยายามของน้องๆ แต่ละคน ไม่ใช่การนำไปเปรียบเทียบกับพี่น้องหรือเพื่อนคนอื่น เพราะจะทำให้น้องๆ รู้สึกกดดันและอาจเสียกำลังใจได้
  • ต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้: หากคุณพ่อคุณแม่ให้สัญญาเรื่องรางวัลแล้ว ต้องรักษาสัญญาให้ได้เสมอ การไม่รักษาสัญญาจะทำให้น้องๆ ขาดความเชื่อมั่น และอาจหมดกำลังใจที่จะพยายามในครั้งต่อไป
  • สอนให้เข้าใจความหมายของความพยายาม: ขณะที่ให้รางวัล ควรเน้นย้ำให้น้องๆ เข้าใจว่ารางวัลนี้ได้มาเพราะความพยายาม ความอดทน และความตั้งใจของน้องเอง เพื่อให้น้องๆ เห็นคุณค่าของกระบวนการ มากกว่าแค่ผลลัพธ์

การ ให้รางวัลความสำเร็จ เป็นศิลปะที่ต้องใช้ความเข้าใจและใส่ใจครับ มันไม่ใช่แค่การแลกเปลี่ยน แต่เป็นการลงทุนในอนาคตของน้องๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจ วินัย และความเชื่อมั่นในตัวเอง

พี่ๆ เชื่อว่าน้องๆ ทุกคนมีความสามารถที่จะทำตามความฝันได้สำเร็จ และคุณพ่อคุณแม่ก็คือพลังสำคัญที่จะคอยผลักดันและสนับสนุนให้น้องๆ ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

ขอให้น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่สนุกกับการวางแผนการเรียน และมีความสุขกับทุกๆ ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนะครับ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ทุกความสำเร็จนั้นมีคุณค่าเสมอ!

และหากการวางแผนนี้ทำให้น้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าการตะลุยโจทย์วิทยาศาสตร์คือสิ่งสำคัญ ทีมงาน TidMor1 ขอแนะนำ "ข้อสอบเข้า ม.1 วิทยาศาสตร์ 3,000 ข้อ" ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสร้างความคุ้นเคยกับแนวข้อสอบที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ TidMor1.com นะครับ