คุณพ่อคุณแม่และน้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 คงรู้ดีว่าช่วงเวลานี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความท้าทายใหม่ๆ ใช่ไหมครับ? ข้อสอบหลายวิชา เช่น วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ มักจะมีโจทย์ที่มาพร้อมกับกราฟ แผนภูมิ หรือตารางข้อมูลให้เราต้องวิเคราะห์และตีความ ถ้าเป็นเรื่องที่เราถนัดก็คงไม่มีปัญหา แต่บางครั้งข้อมูลที่ซับซ้อนก็ทำให้น้องๆ สับสนหรือพลาดไปง่ายๆ เลยใช่ไหมล่ะครับ
เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมเราถึง "พลาด" ทั้งๆ ที่คำตอบมันก็อยู่ในกราฟนั่นแหละ? ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าน้องๆ ไม่เก่งนะครับ แต่บางทีมันอยู่ที่การอ่าน การตีความ และการจับใจความสำคัญของข้อมูลจากรูปแบบเหล่านี้อย่างถูกวิธีต่างหาก
บทความนี้ ทีมงาน TidMor1 ในฐานะพี่ๆ ที่เข้าใจดีว่าน้องๆ และคุณพ่อคุณแม่กำลังเผชิญหน้ากับอะไร จะมาแนะนำ "วิธีอ่านกราฟ แผนภูมิ และตารางในข้อสอบให้ถูกต้อง" พร้อมเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยให้น้องๆ สามารถ อ่านกราฟตารางข้อสอบ ได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวโจทย์ซับซ้อนอีกต่อไป และที่สำคัญคือเพิ่มโอกาสในการทำคะแนนให้ดียิ่งขึ้นไปอีกครับ เตรียมกระดาษปากกามาจดเคล็ดลับกันได้เลย!
ทำไมต้องให้ความสำคัญกับการอ่านกราฟ ตาราง ในข้อสอบ?
ก่อนอื่นเลย เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมทักษะการ อ่านกราฟตารางข้อสอบ ถึงได้มีความสำคัญมากๆ ในการเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 หรือแม้แต่ในชีวิตประจำวัน
- เจอแน่ๆ ในข้อสอบ: ไม่ว่าจะเป็นวิชาวิทยาศาสตร์ที่ต้องวิเคราะห์ผลการทดลองจากกราฟ, วิชาคณิตศาสตร์ที่ให้ข้อมูลสถิติในรูปแบบตาราง หรือแม้แต่วิชาสังคมศึกษาที่อาจมีแผนภูมิแสดงข้อมูลประชากร รูปแบบเหล่านี้ปรากฏตัวในข้อสอบอยู่เสมอ ดังนั้นการเข้าใจวิธีอ่านจะช่วยให้น้องๆ ได้เปรียบอย่างมาก
- พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์: การอ่านกราฟ แผนภูมิ และตาราง ไม่ใช่แค่การอ่านตัวเลข แต่เป็นการฝึกให้น้องๆ รู้จักเชื่อมโยงข้อมูล เปรียบเทียบ และสรุปผลด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากๆ ในการเรียนรู้และในอนาคตครับ
- ลดข้อผิดพลาดจากการตีความ: บ่อยครั้งที่น้องๆ ทำโจทย์ผิด ไม่ได้เพราะคำนวณผิด แต่เป็นเพราะตีความข้อมูลที่ให้มาไม่ตรงกับที่โจทย์ต้องการ ดังนั้นการมี "วิธีอ่านกราฟ ตาราง ข้อสอบ" ที่เป็นระบบ จะช่วยลดโอกาสผิดพลาดเหล่านี้ได้เยอะเลยครับ
- ทำข้อสอบได้เร็วขึ้น: เมื่อเราคุ้นเคยกับการอ่านและทำความเข้าใจข้อมูลในรูปแบบต่างๆ จะทำให้น้องๆ ใช้เวลาน้อยลงในการวิเคราะห์โจทย์ และมีเวลาไปทบทวนหรือทำข้อสอบส่วนอื่นๆ ได้มากขึ้นครับ
เห็นไหมครับว่าทักษะนี้สำคัญแค่ไหน? ถ้าพร้อมแล้ว มาดูเทคนิคที่จะช่วยให้น้องๆ อ่านกราฟตารางข้อสอบ ได้อย่างมืออาชีพกันเลย!
3 ขั้นตอนทอง อ่านกราฟ ตาราง ข้อสอบ อย่างโปร!
พี่ๆ TidMor1 อยากให้น้องๆ ลองมองการ อ่านกราฟตารางข้อสอบ เหมือนกับการที่เราจะออกเดินทางไปที่ไหนสักแห่งครับ ก่อนจะออกเดินทาง เราต้องเตรียมตัวให้พร้อม มีแผนที่ที่ชัดเจน และหมั่นตรวจสอบเส้นทางอยู่เสมอ เทคนิค 3 ขั้นตอนนี้จะช่วยให้น้องๆ มี "แผนที่" ที่ดีในการเดินทางสู่คำตอบที่ถูกต้องครับ
ขั้นตอนที่ 1: สแกนให้ทั่ว – รู้จักเพื่อนร่วมทาง (ข้อมูล)
ขั้นตอนนี้สำคัญมากครับ เหมือนกับการที่เราเปิดแผนที่ออกมาดูภาพรวมทั้งหมดก่อนที่จะลงรายละเอียด อย่าเพิ่งรีบอ่านโจทย์ทันทีนะครับ ลองใช้เวลาสัก 5-10 วินาที สแกนดูข้อมูลที่ให้มาอย่างละเอียด
- ชื่อเรื่อง/หัวข้อของกราฟ แผนภูมิ หรือตาราง: นี่คือสิ่งแรกที่ต้องมองหาครับ ชื่อเรื่องจะบอกน้องๆ ว่าข้อมูลเหล่านี้เกี่ยวกับอะไร เช่น "จำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมชมรมต่างๆ", "อุณหภูมิเฉลี่ยในแต่ละเดือน" หรือ "ผลผลิตทางการเกษตรของภาคต่างๆ" การรู้หัวข้อจะช่วยให้น้องๆ ตั้งสติและเข้าใจบริบทของข้อมูลได้ทันที
- แกน X และ แกน Y (สำหรับกราฟ/แผนภูมิ):
- แกน X (แกนนอน): มักจะบอกเกี่ยวกับเวลา ประเภท หรือกลุ่ม เช่น เดือน, ปี, ชนิดสัตว์
- แกน Y (แกนตั้ง): มักจะบอกปริมาณ จำนวน หรือค่าที่วัดได้ เช่น อุณหภูมิ (องศาเซลเซียส), จำนวน (คน), รายได้ (บาท)
- หน่วยวัด: สำคัญมาก ห้ามมองข้ามเด็ดขาด! ตัวเลขจะไม่มีความหมายเลยถ้าเราไม่รู้หน่วย เช่น 100 อาจจะเป็น 100 คน, 100 กิโลกรัม, 100 เปอร์เซ็นต์ หรือ 100 บาท ถ้าโจทย์ให้มาเป็นคน แต่เราเผลอไปคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ คำตอบก็จะผิดทันทีครับ
- สัญลักษณ์/คำอธิบาย (Legend): ถ้าเป็นกราฟหรือแผนภูมิที่มีข้อมูลหลายชุด เช่น กราฟเส้นหลายสี หรือแผนภูมิแท่งหลายแท่งซ้อนกัน น้องๆ ต้องดูว่าแต่ละสีหรือแต่ละสัญลักษณ์หมายถึงอะไร บางทีอาจจะเป็นเพศ ชนิดของสินค้า หรือกลุ่มอายุ
- ที่มาของข้อมูล: บางครั้งข้อมูลอาจจะบอกแหล่งที่มา เช่น "จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ" หรือ "ผลการสำรวจของโรงเรียน" สิ่งนี้ช่วยให้เราเข้าใจความน่าเชื่อถือของข้อมูลครับ
จำไว้ว่า การสแกนให้ทั่วเหมือนกับการทำความรู้จักกับ "เพื่อนร่วมทาง" คือข้อมูลทั้งหมดที่เราต้องใช้ครับ
ขั้นตอนที่ 2: เจาะลึก – หาคำตอบในใจ (ตีความข้อมูล)
เมื่อเราเข้าใจภาพรวมของข้อมูลแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการ "เจาะลึก" ครับ เหมือนกับการที่เราเริ่มเดินตามแผนที่ โดยอ่านโจทย์อย่างละเอียดและพยายามเชื่อมโยงสิ่งที่โจทย์ถามเข้ากับข้อมูลที่เราสแกนไว้ตั้งแต่แรก
- อ่านโจทย์ให้เข้าใจถ่องแท้: คำถามต้องการอะไร? ถามถึงอะไร? ถามเกี่ยวกับช่วงเวลาไหน? เปรียบเทียบอะไรกับอะไร? บางทีโจทย์อาจจะมีคำสำคัญที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ เช่น "รวมทั้งหมด", "แตกต่างกันเท่าไร", "คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์", "เฉลี่ย"
- ตีความข้อมูลทีละส่วน: อย่าเพิ่งรีบหาคำตอบทันทีนะครับ ค่อยๆ ตีความข้อมูลทีละจุดที่เกี่ยวข้องกับคำถาม เช่น ถ้าถามว่า "เดือนไหนมีจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่มากที่สุด?" ให้เรามองหากราฟที่แสดงจำนวนผู้ป่วย แล้วไล่ดูทีละเดือนว่าเดือนไหนกราฟสูงที่สุด
- เทคนิคการตีความที่สำคัญ:
- การเปรียบเทียบ: อันไหนมากสุด? อันไหนน้อยสุด? อันไหนเพิ่มขึ้น? อันไหนลดลง? (ใช้กับแผนภูมิแท่ง กราฟเส้น ตาราง)
- การหาความสัมพันธ์: ถ้าสิ่งหนึ่งเพิ่มขึ้น อีกสิ่งหนึ่งเป็นอย่างไร? (ใช้กับกราฟเส้น)
- การคำนวณง่ายๆ: เช่น การบวก ลบ คูณ หาร เพื่อหาผลรวม, ส่วนต่าง, หรือค่าเฉลี่ย (ใช้ได้กับทุกรูปแบบ)
- การอ่านค่าจากจุดตัด: ในกราฟเส้น ถ้ามีเส้นกราฟหลายเส้น จุดที่เส้นกราฟตัดกันมีความหมายอย่างไร?
- มองหาข้อมูลที่โจทย์ถามในตาราง/กราฟ: บางทีโจทย์อาจจะถามข้อมูลที่ไม่ได้แสดงตรงๆ แต่เราต้องนำข้อมูลจากหลายส่วนมารวมกัน เช่น ถ้าในตารางมีข้อมูลยอดขายของแต่ละไตรมาส แต่โจทย์ถามยอดขายรวมทั้งปี เราก็ต้องนำตัวเลขจากทั้งสี่ไตรมาสมาบวกกัน
ขั้นตอนนี้คือการ "หาคำตอบในใจ" ครับ คือการที่เราเข้าใจแล้วว่าข้อมูลไหนเกี่ยวข้องกับคำถาม และเราจะดึงข้อมูลนั้นมาใช้ได้อย่างไร
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบ – ย้ำความชัวร์ (ตอบคำถาม)
มาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้วครับ เหมือนกับการที่เราเดินทางไปถึงจุดหมายแล้ว แต่ก็ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเรามาถูกที่แล้วจริงๆ การรีบตอบทันทีอาจทำให้น้องๆ พลาดได้ง่ายๆ นะครับ
- อ่านตัวเลือกทุกข้อ: อย่าเพิ่งกาคำตอบทันทีที่เจอคำตอบที่ดูเหมือนจะถูกนะครับ ให้ลองอ่านตัวเลือกอื่นๆ ให้ครบทุกข้อ บางทีอาจมีตัวเลือกที่ดูคล้ายกันมากๆ แต่มีจุดเล็กๆ ที่แตกต่างกัน
- เทียบคำตอบกับข้อมูลที่ตีความได้: นำคำตอบที่เราได้จากการตีความในขั้นตอนที่ 2 มาเทียบกับตัวเลือกอย่างรอบคอบ ตรวจสอบอีกครั้งว่าตัวเลขที่ได้ถูกต้องหรือไม่ หน่วยตรงกันหรือไม่
- ระวังคำหลอก/คำปฏิเสธ: ข้อสอบมักจะมีการใช้คำที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เช่น "ยกเว้นข้อใด", "ข้อใดกล่าว ไม่ถูกต้อง", "ข้อใด ไม่ใช่" คำเหล่านี้เป็นกับดักที่ทำให้น้องๆ พลาดได้ง่ายมาก ดังนั้นต้องอ่านโจทย์และตัวเลือกอย่างละเอียดครับ
- ถ้าไม่แน่ใจ ให้ตัดตัวเลือกที่ไม่ใช่: ในกรณีที่ไม่แน่ใจ ให้ใช้วิธีตัดตัวเลือกที่ไม่น่าจะใช่ทิ้งไปก่อน วิธีนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเลือกคำตอบที่ถูกต้องได้ครับ
- ทวนอีกครั้ง: หลังจากเลือกคำตอบแล้ว ลองทวนโจทย์อีกครั้งว่าคำตอบที่เราเลือกนั้นสอดคล้องกับโจทย์และข้อมูลในกราฟ/ตาราง 100% หรือไม่ การทวนซ้ำเป็นอีกเทคนิคสำคัญในการ อ่านกราฟตารางข้อสอบ ให้แม่นยำครับ
รู้จักประเภทกราฟ แผนภูมิ ตาราง พร้อมเทคนิคพิเศษ!
แม้ว่าหลักการ 3 ขั้นตอนจะใช้ได้กับทุกรูปแบบ แต่การทำความรู้จักกับลักษณะเฉพาะของกราฟ แผนภูมิ และตารางแต่ละประเภท จะช่วยให้น้องๆ อ่านกราฟตารางข้อสอบ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นครับ
แผนภูมิแท่ง (Bar Chart)
แผนภูมิแท่งมักใช้เพื่อเปรียบเทียบปริมาณหรือจำนวนของสิ่งต่างๆ ในแต่ละหมวดหมู่ หรือแสดงการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาหนึ่ง
- เทคนิคเฉพาะ:
- ดูความสูงของแท่ง: แท่งที่สูงกว่าหมายถึงปริมาณที่มากกว่า
- เปรียบเทียบแท่งที่อยู่ใกล้กัน: ดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างชัดเจนหรือไม่
- ระวังแผนภูมิแท่งคู่/หลายแท่ง: ต้องดู Legend (คำอธิบายสี/สัญลักษณ์) ให้ดีว่าแต่ละแท่งหมายถึงอะไร เพื่อไม่ให้สับสนระหว่างข้อมูลกลุ่มต่างๆ
- ดูช่วงของแกน: บางครั้งแกนอาจไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ ซึ่งอาจทำให้การเปรียบเทียบดูผิดเพี้ยนไปได้ ต้องระวังให้ดี
แผนภูมิวงกลม (Pie Chart)
แผนภูมิวงกลมใช้แสดงสัดส่วนหรือเปอร์เซ็นต์ของแต่ละส่วนเทียบกับทั้งหมด (100%) มักใช้แสดงการแบ่งปันส่วนแบ่ง
- เทคนิคเฉพาะ:
- ดูว่าวงกลมแทนอะไร (100%): เช่น นักเรียนทั้งหมด, งบประมาณรวม, ชนิดของอาหารที่บริโภค
- เปรียบเทียบขนาดของแต่ละ "ชิ้นเค้ก": ชิ้นไหนใหญ่ที่สุด (สัดส่วนมากที่สุด), ชิ้นไหนเล็กที่สุด (สัดส่วนน้อยที่สุด)
- สังเกตเปอร์เซ็นต์กำกับ: บางครั้งจะมีตัวเลขเปอร์เซ็นต์กำกับแต่ละชิ้นส่วนอยู่แล้ว ซึ่งช่วยให้เราอ่านค่าได้ง่ายขึ้น
- ระวังเรื่อง "อื่นๆ": บางทีจะมีส่วนที่รวมเป็น "อื่นๆ" ซึ่งอาจรวบรวมข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ไว้ด้วยกัน
กราฟเส้น (Line Graph)
กราฟเส้นใช้แสดงแนวโน้มหรือการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลในช่วงเวลาต่างๆ เหมาะสำหรับการติดตามผลหรือการพยากรณ์
- เทคนิคเฉพาะ:
- ดูแนวโน้ม: กราฟพุ่งขึ้น (เพิ่มขึ้น), กราฟลดลง (ลดลง), กราฟนิ่ง (คงที่)
- หาจุดสูงสุด/ต่ำสุด: กราฟขึ้นไปสูงสุดเมื่อไร? ลดลงต่ำสุดเมื่อไร?
- สังเกตความชัน: กราฟที่ชันมากแสดงว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว กราฟที่ราบแสดงว่าเปลี่ยนแปลงช้า
- กราฟเส้นหลายเส้น: หากมีเส้นกราฟหลายเส้นในกราฟเดียว ให้ดูว่าแต่ละเส้นแสดงถึงอะไร (จาก Legend) และเปรียบเทียบแนวโน้มของแต่ละเส้น เช่น เส้นไหนเพิ่มขึ้นเร็วกว่า เส้นไหนตัดกับเส้นไหน
ตารางข้อมูล (Table)
ตารางข้อมูลเป็นรูปแบบที่จัดเรียงข้อมูลเป็นแถวและคอลัมน์ ทำให้ง่ายต่อการค้นหาข้อมูลเฉพาะเจาะจง
- เทคนิคเฉพาะ:
- อ่านหัวตาราง: บอกภาพรวมของข้อมูลในตาราง
- อ่านหัวคอลัมน์และหัวแถว: สิ่งเหล่านี้จะบอกว่าข้อมูลในแต่ละช่องหมายถึงอะไร เช่น คอลัมน์ "ชื่อ" แถว "เพศ"
- ค้นหาข้อมูลตามเงื่อนไข: ถ้าโจทย์ถาม "ยอดขายสินค้า A ในเดือนมีนาคม" ให้กวาดสายตาไปที่คอลัมน์ "สินค้า A" แล้วไล่ลงมาที่แถว "เดือนมีนาคม"
- ระวังการอ่านสลับคอลัมน์/แถว: เป็นข้อผิดพลาดที่พบบ่อยมากครับ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอ่านค่าจากคอลัมน์และแถวที่ถูกต้องตรงกัน
- สังเกตช่องว่างหรือค่า N/A: บางครั้งในตารางอาจมีข้อมูลที่หายไป หรือใช้ N/A (Not Applicable) ซึ่งอาจมีความหมายบางอย่างที่ต้องระวัง
ข้อควรจำ! เมื่อต้อง อ่านกราฟตารางข้อสอบ ให้เป๊ะ
นอกเหนือจาก 3 ขั้นตอนหลักและเทคนิคเฉพาะแต่ละประเภทแล้ว พี่ๆ มีข้อควรจำเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้น้องๆ ไม่พลาดในการ อ่านกราฟตารางข้อสอบ ครับ
- อ่านโจทย์ให้ละเอียดที่สุด: คำบางคำในโจทย์อาจเปลี่ยนความหมายของคำตอบไปเลย เช่น "เฉลี่ย" กับ "รวม" หรือ "เพิ่มขึ้นเท่าไร" กับ "คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้น" การจับคำสำคัญให้ได้จะช่วยให้น้องๆ ไม่หลงทาง
- ไม่คิดไปเอง: ยึดข้อมูลในกราฟ/ตารางเท่านั้น! ถ้าในกราฟไม่ได้บอกว่าเดือนนั้นฝนตก เราก็ไม่ควรเดาไปเองว่าฝนตกครับ ใช้แค่ข้อมูลที่ปรากฏเท่านั้น
- ระวังหน่วยวัด: ย้ำอีกครั้งว่าหน่วยสำคัญมาก! บางทีโจทย์อาจให้หน่วยเป็น "กิโลกรัม" แต่คำตอบเป็น "กรัม" น้องๆ ต้องแปลงหน่วยให้ถูกต้องก่อนตอบนะครับ
- คำถามเชิงลบ: "ยกเว้น", "ไม่ถูกต้อง", "ข้อใดไม่ใช่" คำเหล่านี้มักจะเป็นกับดักที่ทำให้น้องๆ สับสน อ่านดีๆ แล้วหาตัวเลือกที่ไม่เข้าพวกหรือขัดแย้งกับข้อมูลที่ให้มา
- ฝึกฝนสม่ำเสมอ: ไม่มีวิธีไหนจะดีไปกว่าการลงมือทำและฝึกฝนจริงครับ ยิ่งน้องๆ ได้ อ่านกราฟตารางข้อสอบ บ่อยเท่าไหร่ จะยิ่งคุ้นเคยและทำได้เร็วขึ้นเท่านั้น ลองหาแบบฝึกหัดหรือข้อสอบเก่าๆ มาลองทำดูนะครับ
- ใช้การวาดหรือวงกลม: ถ้าจำเป็น สามารถใช้ดินสอขีดเส้น หรือวงกลมข้อมูลสำคัญบนกระดาษทด เพื่อช่วยในการเปรียบเทียบหรือหาข้อมูลได้
ฝึกฝนเท่านั้น ที่จะพาไปถึงฝัน!
จำไว้นะครับว่า การ อ่านกราฟตารางข้อสอบ เป็นทักษะที่ต้องใช้การฝึกฝน ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของน้องๆ แน่นอนครับ ยิ่งฝึกฝนมากเท่าไหร่ น้องๆ ก็จะยิ่งมีความชำนาญและมั่นใจมากขึ้นเท่านั้น
คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยน้องๆ ได้ด้วยการหากราฟหรือแผนภูมิจากข่าวสารในชีวิตประจำวัน เช่น กราฟแสดงสถิติการใช้จ่าย แผนภูมิแสดงยอดขายสินค้า หรือตารางข้อมูลสภาพอากาศ แล้วชวนน้องๆ ลองอ่านและตีความข้อมูลร่วมกัน เพื่อสร้างความคุ้นเคยและให้เห็นว่าทักษะนี้เป็นประโยชน์ในชีวิตจริงอย่างไร
ส่วนน้องๆ เอง ลองหาโจทย์ที่เกี่ยวข้องกับการอ่านกราฟ แผนภูมิ และตาราง มาฝึกทำบ่อยๆ ทำความเข้าใจในข้อที่ผิดพลาด และเรียนรู้จากมันครับ การทำความเข้าใจแต่ละข้ออย่างละเอียดจะช่วยให้น้องๆ เติบโตขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นแน่นอนครับ
และหากการวางแผนนี้ทำให้น้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าการตะลุยโจทย์วิทยาศาสตร์คือสิ่งสำคัญ ทีมงาน TidMor1 ขอแนะนำ "ข้อสอบเข้า ม.1 วิทยาศาสตร์ 3,000 ข้อ" ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสร้างความคุ้นเคยกับแนวข้อสอบที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ TidMor1.com นะครับ