วิธีรับมือกับวิชาที่ไม่ถนัด เปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นคะแนน

เขียนโดย: ทีมงาน TidMor1 | เผยแพร่เมื่อ: 26 กันยายน 2568

วิชาที่ไม่ถนัด เตรียมสอบเข้า ม.1 เทคนิคการเรียน

น้องๆ เคยรู้สึกแบบนี้ไหมครับ? พอเปิดหนังสือวิชาคณิตศาสตร์แล้วเหมือนเห็นตัวเลขลอยไปลอยมา พอเจอโจทย์วิทยาศาสตร์ยาวๆ ก็อยากจะปิดหนังสือทันที หรือพอเป็นวิชาภาษาอังกฤษก็รู้สึกว่ามันช่างไกลตัวเหลือเกิน... ความรู้สึก "ไม่ชอบ" หรือ "ไม่ถนัด" ในบางวิชาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนเลยนะ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลยครับ

ในขณะเดียวกัน คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะกำลังเป็นกังวลใจอยู่ไม่น้อย เมื่อเห็นคะแนนของน้องๆ ในวิชาเหล่านั้นอาจจะไม่เป็นไปตามที่หวัง และกลัวว่ามันจะฉุดคะแนนรวมตอนสอบเข้า ม.1... พี่ๆ ทีมงาน TidMor1 เข้าใจความรู้สึกนี้ดีครับ บทความนี้เลยอยากจะมาชวนคุย ชวนหาทางออก เพื่อเปลี่ยนความกังวลใจให้กลายเป็นพลังบวก พร้อมมอบ วิธีรับมือกับวิชาที่ไม่ถนัด เปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นคะแนน ที่น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง ไม่ใช่แค่เพื่อการสอบ แต่เพื่อสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ไปตลอดชีวิตเลยครับ

ขั้นที่ 1: "ยอมรับ" และทำความเข้าใจ "จุดอ่อน" ของเราก่อน

ก่อนที่เราจะวิ่งไปข้างหน้า สิ่งสำคัญที่สุดคือการหยุดและมองตัวเองตามความเป็นจริงครับ การมีวิชาที่ไม่ถนัดไม่ได้แปลว่าเรา "ไม่เก่ง" หรือ "โง่" นะครับ มันแค่หมายความว่าเราอาจจะยังไม่เจอวิธีที่ใช่ในการเรียนรู้วิชานั้นๆ หรืออาจจะมีบางจุดที่เรายังไม่เข้าใจมันจริงๆ เท่านั้นเอง

เปลี่ยนคำว่า "ไม่เก่ง" เป็น "ยังไม่เข้าใจ"

คำพูดที่เราบอกกับตัวเองมีพลังมากนะครับ ลองเปลี่ยนจาก "เราไม่เก่งเลข" เป็น "เรายังไม่เข้าใจเรื่องสมการ" หรือเปลี่ยนจาก "เราอ่อนอังกฤษ" เป็น "เรายังจำคำศัพท์ได้ไม่เยอะพอ" การเปลี่ยนมุมมองแค่นี้ จะทำให้ปัญหาดูเล็กลงและรู้สึกว่าเราสามารถจัดการกับมันได้ง่ายขึ้นเยอะเลยครับ เพราะสมองของเราก็เหมือนกล้ามเนื้อ ยิ่งฝึกฝน ยิ่งใช้งาน มันก็จะยิ่งแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ

ลองเป็นนักสืบ: หาต้นตอของปัญหาให้เจอ

ทำไมเราถึงไม่ชอบหรือไม่เข้าใจวิชานี้? ลองตอบคำถามเหล่านี้กับตัวเองดูนะครับ (คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถช่วยน้องๆ ค้นหาคำตอบได้เช่นกัน)

  • พื้นฐานไม่แน่นหรือเปล่า? เช่น ไม่เข้าใจเรื่องการบวกลบคูณหาร พอมาเจอโจทย์ปัญหาซับซ้อนก็เลยไปต่อไม่ได้
  • วิธีการสอนอาจจะไม่เข้ากับเรา? บางคนชอบเรียนแบบเห็นภาพ บางคนชอบฟัง บางคนชอบลงมือทำ
  • รู้สึกว่าวิชานี้ "น่าเบื่อ"? อาจจะเพราะเรายังมองไม่เห็นว่ามันจะเอาไปใช้ประโยชน์อะไรในชีวิตจริงได้
  • ขาดการฝึกฝนที่ต่อเนื่อง? ทำแบบฝึกหัดเฉพาะตอนใกล้สอบ ทำให้ไม่คุ้นเคยกับโจทย์
  • กลัวที่จะถาม? ไม่กล้ายกมือถามคุณครูเมื่อไม่เข้าใจ เพราะกลัวเพื่อนล้อหรือกลัวครูว่า

การเข้าใจ "สาเหตุ" ที่แท้จริง คือกุญแจดอกแรกที่จะนำไปสู่ วิธีรับมือกับวิชาที่ไม่ถนัด ที่มีประสิทธิภาพที่สุดครับ

ขั้นที่ 2: ปรับ Mindset จาก "ศัตรู" ให้กลายเป็น "ความท้าทาย"

เมื่อเรารู้แล้วว่าปัญหาเกิดจากอะไร ขั้นต่อไปคือการปรับมุมมองของเราที่มีต่อวิชานั้นๆ ครับ แทนที่จะมองว่ามันเป็น "ศัตรูตัวฉกาจ" ที่ต้องเอาชนะให้ได้ ลองมองว่ามันเป็น "เกมด่านใหม่" หรือ "ความท้าทาย" ที่น่าสนุกดูสิครับ

ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ที่ทำสำเร็จได้ (Baby Steps)

อย่าเพิ่งตั้งเป้าว่าจะต้องได้เกรด 4 ภายในเทอมเดียว! มันจะทำให้เรารู้สึกกดดันและท้อแท้ได้ง่ายๆ ครับ ลองเริ่มจากเป้าหมายที่เล็กมากๆ แต่ทำได้จริง เช่น

  • "สัปดาห์นี้ ฉันจะทำความเข้าใจเรื่อง 'การสังเคราะห์ด้วยแสง' ให้ได้"
  • "วันนี้ ฉันจะลองทำแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ 5 ข้อ แล้วทำให้ถูกอย่างน้อย 2 ข้อ"
  • "ฉันจะท่องศัพท์ภาษาอังกฤษวันละ 3 คำทุกวัน"

ทุกครั้งที่ทำสำเร็จ ให้ชื่นชมตัวเองหรือให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ การสะสมความสำเร็จเล็กๆ เหล่านี้จะค่อยๆ สร้างความมั่นใจให้เราอย่างมหาศาลเลยครับ

เชื่อมโยงวิชาการเข้ากับชีวิตประจำวัน

ลองหาวิธีทำให้วิชาที่ไม่ชอบกลายเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่น้องๆ สนใจดูสิครับ เช่น ถ้าชอบเล่นเกม ลองดูว่าคณิตศาสตร์ถูกใช้ในการคำนวณดาเมจอย่างไร ถ้าชอบทำอาหาร วิทยาศาสตร์ก็ซ่อนอยู่ในการเปลี่ยนแปลงของวัตถุดิบ ถ้าชอบดูหนังหรือฟังเพลง ก็ลองเปิดซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษแล้วพยายามจับคำศัพท์ที่คุ้นเคยดู การทำแบบนี้จะทำให้การเรียนรู้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

ขั้นที่ 3: สร้าง "แผนที่พิชิตจุดอ่อน" ฉบับทำได้จริง

มีทัศนคติที่ดีแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือวางแผนอย่างเป็นระบบครับ การมีแผนที่ดีก็เหมือนมีแผนที่อยู่ในมือ ทำให้เรารู้ว่าต้องเดินไปทางไหน ไม่หลงทาง และไปถึงเป้าหมายได้เร็วยิ่งขึ้น นี่คือหัวใจสำคัญของ วิธีรับมือกับวิชาที่ไม่ถนัด เปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นคะแนน เลยครับ

แบ่งเวลาให้วิชาที่ไม่ถนัด "อย่างมีคุณภาพ"

ไม่จำเป็นต้องใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงรวดเดียวครับ เพราะสมองจะล้าและไม่มีสมาธิ ลองใช้เวลาสั้นๆ แต่สม่ำเสมอ เช่น วันละ 30-45 นาทีทุกวันสำหรับวิชานั้นๆ โดยเฉพาะ ช่วงเวลานี้ต้องโฟกัสเต็มที่ ปิดมือถือ ปิดทีวี แล้วอยู่กับเนื้อหาตรงหน้าจริงๆ การทำแบบนี้ให้ผลดีกว่าการอ่านหนังสือแบบมาราธอนก่อนสอบเยอะมากครับ

เทคนิค "ย้อนเกล็ด" กลับไปซ่อมพื้นฐาน

จุดที่หลายคนมองข้ามคือ "พื้นฐาน" ที่ไม่แน่นพอครับ น้องๆ ไม่ต้องอายเลยที่จะกลับไปเปิดหนังสือ ป.5 หรือ ป.4 เพื่อทบทวนเรื่องเก่าๆ ที่เราลืมไปแล้ว การมีพื้นฐานที่แข็งแรงเหมือนการสร้างฐานของตึกให้มั่นคง จะทำให้เราสามารถต่อยอดไปเรียนเรื่องที่ยากขึ้นได้อย่างสบายๆ เลยครับ

ใช้ตัวช่วยให้เป็นประโยชน์

เราไม่ได้ต่อสู้อยู่คนเดียวนะครับ! ในยุคนี้มีตัวช่วยมากมายที่จะทำให้การเรียนง่ายขึ้น

  • ถามคุณครู: คุณครูคือแหล่งความรู้ที่ดีที่สุด อย่ากลัวที่จะเดินเข้าไปถามหลังเลิกเรียนครับ
  • ติวกับเพื่อน: จับกลุ่มกับเพื่อนที่เข้าใจเนื้อหา แล้วช่วยกันติว ช่วยกันอธิบาย จะทำให้เราเข้าใจมากขึ้น
  • สื่อการสอนออนไลน์: มีคลิปสอนฟรีดีๆ มากมายบน YouTube หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่อธิบายเรื่องยากๆ ให้เป็นเรื่องง่าย
  • การฝึกทำโจทย์: โดยเฉพาะวิชาคำนวณอย่างคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ การอ่านอย่างเดียวไม่พอ ต้องลงมือทำโจทย์เยอะๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยและฝึกการแก้ปัญหา

ขั้นที่ 4: สำหรับคุณพ่อคุณแม่: จะช่วยซัพพอร์ตได้อย่างไร?

กำลังใจจากครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่สุดครับ คุณพ่อคุณแม่มีบทบาทอย่างมากในการช่วยน้องๆ เปลี่ยนจุดอ่อนให้เป็นคะแนน ได้สำเร็จ

เป็น "กองเชียร์" ไม่ใช่ "ผู้คุม"

หลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบกับคนอื่น แต่ให้เน้นชื่นชมในความพยายามและพัฒนาการของน้องๆ แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตาม เช่น "วันนี้เก่งมากเลยนะที่ตั้งใจอ่านหนังสือวิทย์ได้ตั้งครึ่งชั่วโมง" คำพูดให้กำลังใจเหล่านี้มีค่ามากกว่าการกดดันให้ได้คะแนนดีๆ ครับ

รับฟังอย่างเข้าใจ

ลองหาเวลาพูดคุยกับน้องๆ ถามถึงปัญหาและความรู้สึกของเขาที่มีต่อวิชานั้นๆ อย่างเปิดใจ บางครั้งปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่ตัวบทเรียน แต่อาจเป็นเรื่องบรรยากาศในห้องเรียนหรือความสัมพันธ์กับเพื่อนและคุณครู การได้รับฟังและเข้าใจจะช่วยให้น้องๆ รู้สึกว่ามีคนอยู่เคียงข้าง

เปลี่ยนบ้านให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้

ไม่จำเป็นต้องมีห้องอ่านหนังสือหรูหราครับ แค่มุมสงบๆ ที่มีแสงสว่างเพียงพอและอุปกรณ์พร้อม ก็ช่วยสร้างสมาธิได้แล้ว อาจจะลองเรียนรู้ไปพร้อมกับน้องๆ เช่น ช่วยกันหาข้อมูลสนุกๆ ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ หรือเล่นเกมทายศัพท์ภาษาอังกฤษด้วยกัน ก็เป็นกิจกรรมที่ดีครับ

บทสรุป: ทุกจุดอ่อนมีโอกาสซ่อนอยู่

การมีวิชาที่ไม่ถนัดไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการเรียนรู้ครับ แต่มันคือจุดเริ่มต้นของการค้นพบวิธีเรียนรู้ใหม่ๆ ที่เหมาะกับตัวเราที่สุด พี่ๆ ขอสรุป วิธีรับมือกับวิชาที่ไม่ถนัด อีกครั้งนะครับ เริ่มจาก ยอมรับและหาต้นตอ ของปัญหา, ปรับ Mindset ให้เป็นบวก, วางแผนการเรียน ที่ทำได้จริง และที่สำคัญคือ การลงมือทำอย่างสม่ำเสมอ โดยมีกำลังใจดีๆ จากคุณพ่อคุณแม่เป็นแรงผลักดัน

จำไว้นะครับว่าไม่มีใครเก่งทุกอย่างมาตั้งแต่เกิด แต่เราทุกคนสามารถเก่งขึ้นได้ถ้าเรามีความพยายามและความเข้าใจที่ถูกต้อง พี่ๆ ทีมงาน TidMor1 ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนก้าวข้ามความท้าทายนี้ไปให้ได้ และเปลี่ยนวิชาที่เคยไม่ชอบให้กลายเป็นอีกหนึ่งวิชาที่ทำคะแนนให้เราได้อย่างภาคภูมิใจครับ!

และหากการวางแผนนี้ทำให้น้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าการตะลุยโจทย์วิทยาศาสตร์คือสิ่งสำคัญ ทีมงาน TidMor1 ขอแนะนำ "ข้อสอบเข้า ม.1 วิทยาศาสตร์ 3,000 ข้อ" ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสร้างความคุ้นเคยกับแนวข้อสอบที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ TidMor1.com นะครับ