จัดการเวลายังไงในวันหยุด (เสาร์-อาทิตย์) ให้คุ้มค่าที่สุด

เขียนโดย: ทีมงาน TidMor1 | เผยแพร่เมื่อ: 10 ตุลาคม 2568

จัดการเวลาวันหยุด วางแผนวันหยุด เตรียมสอบเข้า ม.1 เทคนิคบริหารเวลา ชีวิตนักเรียน

สวัสดีครับ น้องๆ ป.6 - ม.1 และคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน เคยรู้สึกไหมครับว่าวันหยุดสุดสัปดาห์ (เสาร์-อาทิตย์) มันผ่านไปเร็วซะเหลือเกิน? บางทีก็รู้สึกว่ายังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย หรือบางครั้งก็เพลินกับการพักผ่อนจนลืมไปว่ายังมีเรื่องเรียน เรื่อง เตรียมตัวสอบเข้า ม.1 รออยู่ โดยเฉพาะน้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 ด้วยแล้ว วันหยุดแต่ละวันนี่มีค่ามากๆ เลยใช่ไหมครับ?

พี่ๆ ทีมงาน TidMor1 เข้าใจดีเลยครับว่าความรู้สึกแบบนี้มันเป็นยังไง เพราะน้องๆ หลายคนอยากจะสนุกกับกิจกรรมโปรด อยากพักผ่อนให้เต็มที่ แต่ก็อดกังวลเรื่องการเรียนไม่ได้ ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็อยากให้ลูกได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ก็แอบเป็นห่วงเรื่องผลการเรียนและการเตรียมสอบอยู่เหมือนกัน จริงไหมครับ?

ไม่ต้องกังวลไปนะครับ! บทความนี้พี่ๆ จะมาเป็นพี่เลี้ยง เป็นเพื่อนคู่คิด คอยให้คำแนะนำง่ายๆ สไตล์ TidMor1 ที่น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เพื่อให้การ จัดการเวลาวันหยุด ของน้องๆ คุ้มค่าที่สุด ทั้งเรื่องเรียน เรื่องเล่น และเรื่องพักผ่อน รับรองว่าวันหยุดนี้จะเป็นวันหยุดที่มีคุณภาพ ไม่ใช่แค่วันหยุดที่ผ่านไปเฉยๆ แน่นอนครับ เรามาดูกันดีกว่าว่าจะ จัดการเวลาวันหยุด ของเราให้มีประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร!

ทำไมการจัดการเวลาในวันหยุดถึงสำคัญกับน้องๆ ป.6-ม.1?

หลายคนอาจจะคิดว่า "วันหยุดก็ต้องพักผ่อนสิ!" ซึ่งก็ถูกครับ การพักผ่อนเป็นเรื่องสำคัญมากๆ แต่ถ้าเราสามารถ จัดการเวลาวันหยุด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจะได้มากกว่าแค่การพักผ่อนสบายๆ ลองมาดูเหตุผลที่ว่าทำไมการวางแผนวันหยุดถึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับน้องๆ วัยนี้กันครับ:

  • เวลาทองสำหรับเตรียมสอบ: น้องๆ ที่กำลังเตรียมสอบเข้า ม.1 จะรู้ดีว่าวันหยุดคือโอกาสทองจริงๆ ครับ เพราะเป็นช่วงเวลาที่เราไม่ต้องกังวลเรื่องการบ้านโรงเรียน หรือตารางเรียนที่แน่นเอี้ยดเหมือนวันธรรมดา เราสามารถใช้เวลานี้ในการทบทวนบทเรียนที่ยังไม่เข้าใจ ตะลุยโจทย์วิชาที่ต้องติวเข้ม หรือศึกษาเรื่องใหม่ๆ ที่สนใจได้อย่างเต็มที่และมีสมาธิจดจ่อ
  • สร้างสมดุลชีวิต (Work-Life Balance): ชีวิตนักเรียนไม่ได้มีแค่การเรียนอย่างเดียวนะครับ การพักผ่อน การทำกิจกรรมที่ชอบ การใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูง ก็สำคัญไม่แพ้กัน การ จัดสรรเวลา ในวันหยุดให้ดี จะช่วยให้เราได้เติมพลังทั้งกายและใจ ลดความเครียดจากการเรียน และพร้อมรับมือกับสัปดาห์ใหม่ได้อย่างสดชื่น ไม่ใช่แค่เรียนหนักอย่างเดียวแต่ไม่เคยได้พักเลย
  • ฝึกความรับผิดชอบและวินัย: การที่น้องๆ เริ่มต้นวางแผนและ จัดการเวลาวันหยุด ด้วยตัวเอง ถือเป็นการฝึกทักษะชีวิตที่สำคัญมากๆ เลยครับ เป็นการสอนให้รู้จักรับผิดชอบต่อตัวเอง รู้จักบริหารจัดการทรัพยากรที่มีค่าที่สุดอย่าง "เวลา" ซึ่งทักษะนี้จะติดตัวน้องๆ ไปตลอดชีวิต และเป็นประโยชน์ต่อการเรียนและการทำงานในอนาคตแน่นอน
  • คุณพ่อคุณแม่ก็สบายใจ: เมื่อน้องๆ มีแผนการในวันหยุดที่ชัดเจน คุณพ่อคุณแม่ก็จะคลายความกังวลไปได้มากเลยครับ เพราะเห็นว่าลูกมีแนวทางในการใช้เวลาอย่างมีประโยชน์ ไม่ใช่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ หรือติดอยู่กับหน้าจอมากเกินไป การพูดคุยและวางแผนร่วมกันยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวด้วยนะครับ

สำรวจตัวเองก่อนเริ่ม “จัดการเวลาวันหยุด”

ก่อนที่เราจะลงมือเขียน ตารางเวลาวันหยุด ที่เป็นของเราเอง พี่อยากชวนน้องๆ และคุณพ่อคุณแม่มาลองสำรวจตัวเองง่ายๆ ก่อนครับ การรู้จักตัวเองและสิ่งที่ต้องการ จะเป็นเหมือนแผนที่นำทางให้เรา จัดการเวลาวันหยุด ได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • ปกติแล้ววันหยุดเวลาของเราใช้ไปกับอะไรบ้าง?

    ลองคิดดูนะครับว่าในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา น้องๆ ใช้เวลาไปกับอะไรมากที่สุด? เป็นการเรียนพิเศษ การทำการบ้าน การเล่นเกม ดูซีรีส์ เล่นโซเชียลมีเดีย หรือแค่นอนพักผ่อนอยู่บ้านเฉยๆ? การที่เราเห็นภาพรวมของการใช้เวลาในปัจจุบัน จะช่วยให้เรารู้ว่ามีตรงไหนที่เราสามารถปรับปรุงหรือเพิ่มเวลาให้กับกิจกรรมที่มีประโยชน์มากขึ้นได้บ้าง

  • เป้าหมายวันหยุดของเราคืออะไร?

    ลองตั้งคำถามกับตัวเองว่า “วันหยุดนี้ เราอยากทำอะไรให้สำเร็จบ้าง?” อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่าง “อ่านหนังสือที่โรงเรียนสอนให้จบ 2 บท” “ทบทวนวิทยาศาสตร์เรื่องเซลล์” หรือ “จัดห้องนอนให้เรียบร้อย” ไปจนถึง “อยากเล่นเกมให้ครบด่าน” หรือ “อยากใช้เวลากับคุณพ่อคุณแม่ให้มากขึ้น” การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เราโฟกัสและ วางแผนวันหยุด ได้ง่ายขึ้นครับ

  • อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในวันหยุดนี้สำหรับเรา?

    ถ้าให้น้องๆ เรียงลำดับความสำคัญของกิจกรรมในวันหยุด น้องๆ จะเลือกอะไรมาก่อนเป็นอันดับแรก? อาจจะเป็นเรื่องการเรียนที่ต้องเร่งสอบ เรื่องสุขภาพที่ต้องออกกำลังกาย หรือเรื่องความสุขส่วนตัวที่อยากจะพักผ่อนให้เต็มที่ การรู้ว่าอะไรสำคัญที่สุดสำหรับเราในแต่ละช่วงเวลา จะช่วยให้เรา จัดสรรเวลา ได้ตรงตามความต้องการจริงๆ

สร้าง “ตารางเวลาวันหยุด” ให้ปัง เริ่มต้นง่ายๆ

เมื่อสำรวจตัวเองแล้วว่าอยากทำอะไรในวันหยุดบ้าง คราวนี้เรามาเริ่มสร้าง ตารางเวลาวันหยุด ที่เป็นของเราเองกันเลยครับ พี่แนะนำให้ทำเป็นเหมือนตารางง่ายๆ ในกระดาษ หรือจะใช้แอปพลิเคชันในมือถือก็ได้ครับ สิ่งสำคัญคือทำให้มันมองเห็นภาพชัดเจนและเป็นไปได้จริง:

1. กำหนดเวลาตื่น-นอนให้สม่ำเสมอ

แม้จะเป็นวันหยุด แต่การรักษานาฬิกาชีวิตก็ยังคงสำคัญนะครับ การตื่นนอนและเข้านอนในเวลาใกล้เคียงกับวันธรรมดา (อาจจะหย่อนได้บ้างเล็กน้อย) จะช่วยให้ร่างกายและสมองของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีพลังงานตลอดวัน และไม่รู้สึกอ่อนเพลียในช่วงบ่าย การนอนดึกตื่นสายมากๆ อาจทำให้ร่างกายปรับตัวยากในวันจันทร์ และทำให้เรารู้สึกว่าวันหยุดสั้นลงได้นะครับ ลองตั้งเป้าหมายง่ายๆ เช่น ตื่นไม่เกิน 9 โมงเช้า และเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม เป็นต้น

2. จัดสรรเวลาพักผ่อนและทำกิจกรรมที่ชอบก่อน

ฟังไม่ผิดหรอกครับ! พี่แนะนำให้ วางแผนวันหยุด โดยใส่กิจกรรมที่น้องๆ ชอบ หรือช่วงเวลาพักผ่อนลงไปก่อนเลย ทำไมนะเหรอครับ? ก็เพราะว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างแรงจูงใจและทำให้การทำตามตารางไม่รู้สึกเหมือนการบังคับตัวเองมากเกินไป ลองกำหนดช่วงเวลา "พักสมอง" หรือ "เวลาแห่งความสุข" ที่ชัดเจน เช่น ช่วงบ่ายวันเสาร์สำหรับดูหนัง ช่วงเย็นวันอาทิตย์สำหรับเล่นเกม การมีช่วงเวลาผ่อนคลายที่ตั้งใจไว้แล้ว จะช่วยให้น้องๆ มีแรงกลับมาเรียนรู้ในเวลาที่กำหนดไว้ได้อย่างเต็มที่ครับ

3. แบ่งเวลาเรียนเป็นช่วงสั้นๆ แต่สม่ำเสมอ (Chunking Time)

การอัดแน่นการเรียนยาวๆ 3-4 ชั่วโมงรวด อาจจะทำให้เราเหนื่อยล้าและประสิทธิภาพลดลงนะครับ แทนที่จะเป็นแบบนั้น ลองแบ่งเวลาเรียนออกเป็นช่วงสั้นๆ ดูสิครับ เช่น เรียน 25-45 นาที แล้วพัก 5-10 นาที การทำแบบนี้จะช่วยให้สมองได้พัก และเพิ่มความสามารถในการจดจำได้ดีขึ้น ลองใช้เทคนิค Pomodoro คือการจับเวลาเรียน 25 นาที พัก 5 นาที ทำซ้ำ 4 รอบ แล้วพักยาว 15-30 นาที การแบ่งเป็นช่วงๆ แบบนี้จะช่วยให้การ จัดการเวลาวันหยุด ในส่วนของการเรียนไม่น่าเบื่อและมีประสิทธิภาพมากขึ้นครับ

4. จัดลำดับความสำคัญของวิชา/เนื้อหา

น้องๆ เคยได้ยินคำว่า "กินกบตัวที่น่าเกลียดที่สุดก่อน" ไหมครับ? ในที่นี้หมายถึง ให้เริ่มต้นวันหยุดด้วยการจัดการกับงานที่ยากที่สุด หรือวิชาที่เราไม่ชอบที่สุดก่อนเลย เพราะตอนเช้าเป็นช่วงที่เรามีสมาธิและพลังงานมากที่สุด การได้จัดการเรื่องยากๆ ให้เสร็จไปก่อน จะช่วยให้เรารู้สึกโล่งและมีกำลังใจทำสิ่งอื่นๆ ต่อไปได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะวิชาที่ต้องใช้ความคิดวิเคราะห์มากๆ และต้องติวเข้มเพื่อสอบเข้า ม.1 อย่างวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ ควรจะวางแผนไว้ในช่วงเวลาที่เราสดชื่นที่สุดครับ

5. อย่าลืม “เวลาว่าง” ที่ปรับเปลี่ยนได้

ใน ตารางเวลาวันหยุด ของเรา ควรจะมีช่วงเวลาที่เรียกว่า "เวลาว่าง" หรือ "บัฟเฟอร์" เผื่อไว้บ้างนะครับ นี่ไม่ใช่เวลาที่ต้องกำหนดเป๊ะๆ ว่าจะทำอะไร แต่เป็นช่วงเวลาที่เราสามารถยืดหยุ่นได้ อาจจะเอาไว้สำหรับกิจกรรมที่เกิดขึ้นกะทันหัน หรือเพียงแค่อยู่เฉยๆ ปล่อยให้สมองได้พักผ่อนบ้าง การมีเวลาว่างแบบนี้จะช่วยลดความตึงเครียดจากการทำตามตารางที่เป๊ะเกินไป และทำให้เรารู้สึกอิสระมากขึ้นครับ

6. ลงมือทำและบันทึกผล

เมื่อวางแผนเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือทำจริงครับ! อาจจะลองเขียนตารางลงในสมุดแพลนเนอร์ง่ายๆ หรือใช้แอปพลิเคชันจดบันทึกก็ได้ พอทำกิจกรรมอะไรสำเร็จแล้ว ก็ให้ติ๊กถูก หรือขีดฆ่าทิ้งไป การที่เราได้เห็นความก้าวหน้าของตัวเอง จะช่วยสร้างกำลังใจและทำให้เราอยากทำตามแผนต่อไปเรื่อยๆ ในช่วงเย็นของวันอาทิตย์ ลองทบทวนดูว่าเราทำอะไรไปได้บ้าง ทำอะไรไม่ทัน และทำไมถึงไม่ทัน เพื่อนำไปปรับปรุง การจัดการเวลาวันหยุด ในสัปดาห์หน้าให้ดียิ่งขึ้นครับ

เทคนิคเสริมให้การ “จัดการเวลาวันหยุด” มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

นอกจากขั้นตอนการสร้างตารางเวลาแล้ว พี่ๆ ยังมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยเสริมให้การ จัดการเวลาวันหยุด ของน้องๆ มีประสิทธิภาพและมีความสุขมากยิ่งขึ้นครับ

  • 1. บอกลาสิ่งรบกวน (Digital Detox)

    ในยุคที่มือถือและอินเทอร์เน็ตอยู่รอบตัวเรา สิ่งรบกวนเหล่านี้สามารถดึงสมาธิเราไปได้ง่ายๆ เลยนะครับ ลองกำหนดช่วงเวลา "ปลอดจอมือถือ" หรือ "ช่วงเวลาปลอดโซเชียล" โดยเฉพาะตอนที่กำลังเรียน หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิมากๆ อาจจะวางมือถือไว้ในห้องอื่น หรือปิดแจ้งเตือนไปเลยก็ได้ครับ การลดสิ่งรบกวนจะช่วยให้เราโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ดีขึ้น และ ใช้เวลาวันหยุด ได้อย่างมีคุณภาพจริงๆ

  • 2. หา “คู่หู” การเรียนหรือการวางแผน

    บางครั้งการมีเพื่อนร่วมเดินทางก็ช่วยให้เรามีแรงผลักดันมากขึ้นนะครับ ลองชวนเพื่อนสนิทมาติวหนังสือด้วยกัน หรือชวนคุณพ่อคุณแม่มาช่วยดูตารางและคอยเตือนเล็กๆ น้อยๆ การมีคนคอยสนับสนุน จะช่วยให้เรามีวินัยในการ บริหารเวลา มากขึ้น และยังสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ หรือปรึกษาปัญหาเรื่องการเรียนได้อีกด้วย

  • 3. ให้รางวัลตัวเองเมื่อทำได้ตามแผน

    การให้รางวัลตัวเองเล็กๆ น้อยๆ หลังจากที่เราทำตามแผนที่วางไว้ได้สำเร็จ จะเป็นแรงจูงใจชั้นดีเลยนะครับ รางวัลไม่จำเป็นต้องเป็นของแพงเสมอไป อาจจะเป็นการได้ดูการ์ตูนเรื่องโปรดเพิ่มอีกหนึ่งตอน การได้กินขนมที่ชอบ หรือการได้เล่นเกมที่อยากเล่น การมีรางวัลรออยู่จะช่วยกระตุ้นให้น้องๆ พยายามทำตามแผนที่วางไว้ และทำให้การ จัดการเวลาวันหยุด ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไปครับ

  • 4. ยืดหยุ่นได้ ไม่ต้องเป๊ะ 100%

    จำไว้เสมอว่าเป้าหมายของเราคือการ จัดการเวลาวันหยุด ให้ดีขึ้น ไม่ใช่ทำให้มันสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ตลอดเวลาครับ บางครั้งก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น หรือบางวันเราก็อาจจะเหนื่อยล้าเป็นพิเศษ ถ้าแผนล่มไปบ้าง ไม่ต้องท้อใจนะครับ ให้มองว่านี่คือเรื่องปกติของชีวิต แค่ค่อยๆ เริ่มใหม่ ปรับแผนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ การมีความยืดหยุ่นจะช่วยให้เราไม่รู้สึกกดดันตัวเองมากเกินไป และยังคงสนุกกับการเรียนรู้และใช้ชีวิตได้อย่างสมดุล

  • 5. พักผ่อนให้เพียงพอ

    สิ่งนี้สำคัญมากๆ ไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เลยครับ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้สมองของเราได้ฟื้นฟู มีพลังงานในการเรียนรู้และจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น สมาธิก็ดีขึ้นด้วย การอดนอนหรือนอนไม่พอจะส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพในการเรียนและการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น อย่าลืม จัดสรรเวลา สำหรับการนอนหลับให้เพียงพอใน ตารางเวลาวันหยุด ของเราด้วยนะครับ

บทบาทของคุณพ่อคุณแม่: เป็นโค้ชให้ลูก “จัดการเวลาวันหยุด”

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ บทบาทที่สำคัญที่สุดคือการเป็น "โค้ช" หรือ "พี่เลี้ยง" ที่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจลูกนะครับ ไม่ใช่การบังคับหรือควบคุมทุกอย่าง ลองมาดูกันว่าคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูก จัดการเวลาวันหยุด ให้ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง:

  • เป็นผู้ฟังที่ดี: ชวนลูกมานั่งคุยถึงแผนการในวันหยุด ฟังความคิดเห็นและความต้องการของลูก เปิดโอกาสให้ลูกได้เล่าถึงสิ่งที่กังวลหรืออยากทำ การรับฟังจะทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และอยากทำตามแผนที่วางไว้มากขึ้น

  • เป็นที่ปรึกษา: ช่วยกัน วางแผนวันหยุด แต่อย่าออกคำสั่งหรือบังคับให้ทำตามทุกอย่าง คุณพ่อคุณแม่สามารถให้คำแนะนำ หรือชี้แนะแนวทางได้ แต่อิสระในการตัดสินใจส่วนหนึ่งควรเป็นของน้องๆ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้การตัดสินใจด้วยตัวเอง

  • เป็นตัวอย่างที่ดี: คุณพ่อคุณแม่เองก็สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีในการ จัดการเวลาวันหยุด ได้นะครับ การที่ลูกเห็นคุณพ่อคุณแม่มีตารางเวลาส่วนตัวที่ชัดเจน ทำกิจกรรมต่างๆ อย่างเป็นระบบ จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและปลูกฝังวินัยให้กับลูกได้เป็นอย่างดี

  • เป็นกำลังใจสำคัญ: เมื่อลูกทำตามแผนที่วางไว้ได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ก็ควรให้คำชมเชยและให้กำลังใจเสมอ การเห็นคุณค่าในความพยายามของลูกจะทำให้ลูกมีกำลังใจที่จะทำต่อไป แต่หากมีบางวันที่พลาดไปบ้าง ก็ไม่ควรตำหนิหรือกดดัน ให้กำลังใจและช่วยกันหาสาเหตุ เพื่อปรับปรุงในครั้งต่อไปจะดีกว่าครับ

สรุป: จัดการเวลาวันหยุดไม่ใช่เรื่องยาก แค่เริ่มต้น!

น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่คงพอจะเห็นแล้วนะครับว่าการ จัดการเวลาวันหยุด ให้คุ้มค่าที่สุดนั้นไม่ใช่เรื่องยากเกินไปเลยครับ ขอแค่เราเริ่มต้นจากการสำรวจตัวเอง วางแผนอย่างเป็นระบบ (แต่ก็ยืดหยุ่นได้) ลงมือทำ และคอยปรับปรุงอยู่เสมอ

จำไว้นะครับว่าวันหยุดเป็นช่วงเวลาสำคัญที่น้องๆ จะได้ "ชาร์จพลัง" ได้ทำกิจกรรมที่ชอบ และที่สำคัญคือได้ "ติวเข้ม" เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบเข้า ม.1 ด้วย การที่เราสามารถ บริหารเวลา ได้ดี ไม่ได้หมายถึงการต้องเรียนตลอดเวลา แต่หมายถึงการ จัดสรรเวลา ให้เกิดสมดุลที่สุด ทั้งการเรียน การพักผ่อน และการใช้ชีวิต

พี่ๆ TidMor1 เชื่อว่าน้องๆ ทุกคนทำได้แน่นอนครับ! ค่อยๆ เริ่ม ค่อยๆ ปรับ ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ แล้วน้องๆ จะพบว่าการ จัดการเวลาวันหยุด จะกลายเป็นทักษะสำคัญที่ติดตัวไปตลอดชีวิต และช่วยให้น้องๆ ประสบความสำเร็จได้ทั้งในด้านการเรียนและชีวิตส่วนตัวครับ เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ!

และหากการวางแผนนี้ทำให้น้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าการตะลุยโจทย์วิทยาศาสตร์คือสิ่งสำคัญ ทีมงาน TidMor1 ขอแนะนำ "ข้อสอบเข้า ม.1 วิทยาศาสตร์ 3,000 ข้อ" ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสร้างความคุ้นเคยกับแนวข้อสอบที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ TidMor1.com นะครับ