สวัสดีครับ น้องๆ ป.6 - ม.1 และคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน เคยรู้สึกไหมครับว่าวันหยุดสุดสัปดาห์ (เสาร์-อาทิตย์) มันผ่านไปเร็วซะเหลือเกิน? บางทีก็รู้สึกว่ายังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย หรือบางครั้งก็เพลินกับการพักผ่อนจนลืมไปว่ายังมีเรื่องเรียน เรื่อง เตรียมตัวสอบเข้า ม.1 รออยู่ โดยเฉพาะน้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้า ม.1 ด้วยแล้ว วันหยุดแต่ละวันนี่มีค่ามากๆ เลยใช่ไหมครับ?
พี่ๆ ทีมงาน TidMor1 เข้าใจดีเลยครับว่าความรู้สึกแบบนี้มันเป็นยังไง เพราะน้องๆ หลายคนอยากจะสนุกกับกิจกรรมโปรด อยากพักผ่อนให้เต็มที่ แต่ก็อดกังวลเรื่องการเรียนไม่ได้ ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็อยากให้ลูกได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ก็แอบเป็นห่วงเรื่องผลการเรียนและการเตรียมสอบอยู่เหมือนกัน จริงไหมครับ?
ไม่ต้องกังวลไปนะครับ! บทความนี้พี่ๆ จะมาเป็นพี่เลี้ยง เป็นเพื่อนคู่คิด คอยให้คำแนะนำง่ายๆ สไตล์ TidMor1 ที่น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง เพื่อให้การ
ทำไมการจัดการเวลาในวันหยุดถึงสำคัญกับน้องๆ ป.6-ม.1?
หลายคนอาจจะคิดว่า "วันหยุดก็ต้องพักผ่อนสิ!" ซึ่งก็ถูกครับ การพักผ่อนเป็นเรื่องสำคัญมากๆ แต่ถ้าเราสามารถ
- เวลาทองสำหรับเตรียมสอบ: น้องๆ ที่กำลังเตรียมสอบเข้า ม.1 จะรู้ดีว่าวันหยุดคือโอกาสทองจริงๆ ครับ เพราะเป็นช่วงเวลาที่เราไม่ต้องกังวลเรื่องการบ้านโรงเรียน หรือตารางเรียนที่แน่นเอี้ยดเหมือนวันธรรมดา เราสามารถใช้เวลานี้ในการทบทวนบทเรียนที่ยังไม่เข้าใจ ตะลุยโจทย์วิชาที่ต้องติวเข้ม หรือศึกษาเรื่องใหม่ๆ ที่สนใจได้อย่างเต็มที่และมีสมาธิจดจ่อ
- สร้างสมดุลชีวิต (Work-Life Balance): ชีวิตนักเรียนไม่ได้มีแค่การเรียนอย่างเดียวนะครับ การพักผ่อน การทำกิจกรรมที่ชอบ การใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูง ก็สำคัญไม่แพ้กัน การ
จัดสรรเวลา ในวันหยุดให้ดี จะช่วยให้เราได้เติมพลังทั้งกายและใจ ลดความเครียดจากการเรียน และพร้อมรับมือกับสัปดาห์ใหม่ได้อย่างสดชื่น ไม่ใช่แค่เรียนหนักอย่างเดียวแต่ไม่เคยได้พักเลย - ฝึกความรับผิดชอบและวินัย: การที่น้องๆ เริ่มต้นวางแผนและ
จัดการเวลาวันหยุด ด้วยตัวเอง ถือเป็นการฝึกทักษะชีวิตที่สำคัญมากๆ เลยครับ เป็นการสอนให้รู้จักรับผิดชอบต่อตัวเอง รู้จักบริหารจัดการทรัพยากรที่มีค่าที่สุดอย่าง "เวลา" ซึ่งทักษะนี้จะติดตัวน้องๆ ไปตลอดชีวิต และเป็นประโยชน์ต่อการเรียนและการทำงานในอนาคตแน่นอน - คุณพ่อคุณแม่ก็สบายใจ: เมื่อน้องๆ มีแผนการในวันหยุดที่ชัดเจน คุณพ่อคุณแม่ก็จะคลายความกังวลไปได้มากเลยครับ เพราะเห็นว่าลูกมีแนวทางในการใช้เวลาอย่างมีประโยชน์ ไม่ใช่ปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์ หรือติดอยู่กับหน้าจอมากเกินไป การพูดคุยและวางแผนร่วมกันยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวด้วยนะครับ
สำรวจตัวเองก่อนเริ่ม “จัดการเวลาวันหยุด”
ก่อนที่เราจะลงมือเขียน
-
ปกติแล้ววันหยุดเวลาของเราใช้ไปกับอะไรบ้าง?
ลองคิดดูนะครับว่าในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา น้องๆ ใช้เวลาไปกับอะไรมากที่สุด? เป็นการเรียนพิเศษ การทำการบ้าน การเล่นเกม ดูซีรีส์ เล่นโซเชียลมีเดีย หรือแค่นอนพักผ่อนอยู่บ้านเฉยๆ? การที่เราเห็นภาพรวมของการใช้เวลาในปัจจุบัน จะช่วยให้เรารู้ว่ามีตรงไหนที่เราสามารถปรับปรุงหรือเพิ่มเวลาให้กับกิจกรรมที่มีประโยชน์มากขึ้นได้บ้าง
-
เป้าหมายวันหยุดของเราคืออะไร?
ลองตั้งคำถามกับตัวเองว่า “วันหยุดนี้ เราอยากทำอะไรให้สำเร็จบ้าง?” อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่าง “อ่านหนังสือที่โรงเรียนสอนให้จบ 2 บท” “ทบทวนวิทยาศาสตร์เรื่องเซลล์” หรือ “จัดห้องนอนให้เรียบร้อย” ไปจนถึง “อยากเล่นเกมให้ครบด่าน” หรือ “อยากใช้เวลากับคุณพ่อคุณแม่ให้มากขึ้น” การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เราโฟกัสและ
วางแผนวันหยุด ได้ง่ายขึ้นครับ -
อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในวันหยุดนี้สำหรับเรา?
ถ้าให้น้องๆ เรียงลำดับความสำคัญของกิจกรรมในวันหยุด น้องๆ จะเลือกอะไรมาก่อนเป็นอันดับแรก? อาจจะเป็นเรื่องการเรียนที่ต้องเร่งสอบ เรื่องสุขภาพที่ต้องออกกำลังกาย หรือเรื่องความสุขส่วนตัวที่อยากจะพักผ่อนให้เต็มที่ การรู้ว่าอะไรสำคัญที่สุดสำหรับเราในแต่ละช่วงเวลา จะช่วยให้เรา
จัดสรรเวลา ได้ตรงตามความต้องการจริงๆ
สร้าง “ตารางเวลาวันหยุด” ให้ปัง เริ่มต้นง่ายๆ
เมื่อสำรวจตัวเองแล้วว่าอยากทำอะไรในวันหยุดบ้าง คราวนี้เรามาเริ่มสร้าง
1. กำหนดเวลาตื่น-นอนให้สม่ำเสมอ
แม้จะเป็นวันหยุด แต่การรักษานาฬิกาชีวิตก็ยังคงสำคัญนะครับ การตื่นนอนและเข้านอนในเวลาใกล้เคียงกับวันธรรมดา (อาจจะหย่อนได้บ้างเล็กน้อย) จะช่วยให้ร่างกายและสมองของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีพลังงานตลอดวัน และไม่รู้สึกอ่อนเพลียในช่วงบ่าย การนอนดึกตื่นสายมากๆ อาจทำให้ร่างกายปรับตัวยากในวันจันทร์ และทำให้เรารู้สึกว่าวันหยุดสั้นลงได้นะครับ ลองตั้งเป้าหมายง่ายๆ เช่น ตื่นไม่เกิน 9 โมงเช้า และเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม เป็นต้น
2. จัดสรรเวลาพักผ่อนและทำกิจกรรมที่ชอบก่อน
ฟังไม่ผิดหรอกครับ! พี่แนะนำให้
3. แบ่งเวลาเรียนเป็นช่วงสั้นๆ แต่สม่ำเสมอ (Chunking Time)
การอัดแน่นการเรียนยาวๆ 3-4 ชั่วโมงรวด อาจจะทำให้เราเหนื่อยล้าและประสิทธิภาพลดลงนะครับ แทนที่จะเป็นแบบนั้น ลองแบ่งเวลาเรียนออกเป็นช่วงสั้นๆ ดูสิครับ เช่น เรียน 25-45 นาที แล้วพัก 5-10 นาที การทำแบบนี้จะช่วยให้สมองได้พัก และเพิ่มความสามารถในการจดจำได้ดีขึ้น ลองใช้เทคนิค Pomodoro คือการจับเวลาเรียน 25 นาที พัก 5 นาที ทำซ้ำ 4 รอบ แล้วพักยาว 15-30 นาที การแบ่งเป็นช่วงๆ แบบนี้จะช่วยให้การ
4. จัดลำดับความสำคัญของวิชา/เนื้อหา
น้องๆ เคยได้ยินคำว่า "กินกบตัวที่น่าเกลียดที่สุดก่อน" ไหมครับ? ในที่นี้หมายถึง ให้เริ่มต้นวันหยุดด้วยการจัดการกับงานที่ยากที่สุด หรือวิชาที่เราไม่ชอบที่สุดก่อนเลย เพราะตอนเช้าเป็นช่วงที่เรามีสมาธิและพลังงานมากที่สุด การได้จัดการเรื่องยากๆ ให้เสร็จไปก่อน จะช่วยให้เรารู้สึกโล่งและมีกำลังใจทำสิ่งอื่นๆ ต่อไปได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะวิชาที่ต้องใช้ความคิดวิเคราะห์มากๆ และต้องติวเข้มเพื่อสอบเข้า ม.1 อย่างวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ ควรจะวางแผนไว้ในช่วงเวลาที่เราสดชื่นที่สุดครับ
5. อย่าลืม “เวลาว่าง” ที่ปรับเปลี่ยนได้
ใน
6. ลงมือทำและบันทึกผล
เมื่อวางแผนเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือทำจริงครับ! อาจจะลองเขียนตารางลงในสมุดแพลนเนอร์ง่ายๆ หรือใช้แอปพลิเคชันจดบันทึกก็ได้ พอทำกิจกรรมอะไรสำเร็จแล้ว ก็ให้ติ๊กถูก หรือขีดฆ่าทิ้งไป การที่เราได้เห็นความก้าวหน้าของตัวเอง จะช่วยสร้างกำลังใจและทำให้เราอยากทำตามแผนต่อไปเรื่อยๆ ในช่วงเย็นของวันอาทิตย์ ลองทบทวนดูว่าเราทำอะไรไปได้บ้าง ทำอะไรไม่ทัน และทำไมถึงไม่ทัน เพื่อนำไปปรับปรุง
เทคนิคเสริมให้การ “จัดการเวลาวันหยุด” มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากขั้นตอนการสร้างตารางเวลาแล้ว พี่ๆ ยังมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยเสริมให้การ
-
1. บอกลาสิ่งรบกวน (Digital Detox)
ในยุคที่มือถือและอินเทอร์เน็ตอยู่รอบตัวเรา สิ่งรบกวนเหล่านี้สามารถดึงสมาธิเราไปได้ง่ายๆ เลยนะครับ ลองกำหนดช่วงเวลา "ปลอดจอมือถือ" หรือ "ช่วงเวลาปลอดโซเชียล" โดยเฉพาะตอนที่กำลังเรียน หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิมากๆ อาจจะวางมือถือไว้ในห้องอื่น หรือปิดแจ้งเตือนไปเลยก็ได้ครับ การลดสิ่งรบกวนจะช่วยให้เราโฟกัสกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ดีขึ้น และ
ใช้เวลาวันหยุด ได้อย่างมีคุณภาพจริงๆ -
2. หา “คู่หู” การเรียนหรือการวางแผน
บางครั้งการมีเพื่อนร่วมเดินทางก็ช่วยให้เรามีแรงผลักดันมากขึ้นนะครับ ลองชวนเพื่อนสนิทมาติวหนังสือด้วยกัน หรือชวนคุณพ่อคุณแม่มาช่วยดูตารางและคอยเตือนเล็กๆ น้อยๆ การมีคนคอยสนับสนุน จะช่วยให้เรามีวินัยในการ
บริหารเวลา มากขึ้น และยังสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ หรือปรึกษาปัญหาเรื่องการเรียนได้อีกด้วย -
3. ให้รางวัลตัวเองเมื่อทำได้ตามแผน
การให้รางวัลตัวเองเล็กๆ น้อยๆ หลังจากที่เราทำตามแผนที่วางไว้ได้สำเร็จ จะเป็นแรงจูงใจชั้นดีเลยนะครับ รางวัลไม่จำเป็นต้องเป็นของแพงเสมอไป อาจจะเป็นการได้ดูการ์ตูนเรื่องโปรดเพิ่มอีกหนึ่งตอน การได้กินขนมที่ชอบ หรือการได้เล่นเกมที่อยากเล่น การมีรางวัลรออยู่จะช่วยกระตุ้นให้น้องๆ พยายามทำตามแผนที่วางไว้ และทำให้การ
จัดการเวลาวันหยุด ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไปครับ -
4. ยืดหยุ่นได้ ไม่ต้องเป๊ะ 100%
จำไว้เสมอว่าเป้าหมายของเราคือการ
จัดการเวลาวันหยุด ให้ดีขึ้น ไม่ใช่ทำให้มันสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ตลอดเวลาครับ บางครั้งก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น หรือบางวันเราก็อาจจะเหนื่อยล้าเป็นพิเศษ ถ้าแผนล่มไปบ้าง ไม่ต้องท้อใจนะครับ ให้มองว่านี่คือเรื่องปกติของชีวิต แค่ค่อยๆ เริ่มใหม่ ปรับแผนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ การมีความยืดหยุ่นจะช่วยให้เราไม่รู้สึกกดดันตัวเองมากเกินไป และยังคงสนุกกับการเรียนรู้และใช้ชีวิตได้อย่างสมดุล -
5. พักผ่อนให้เพียงพอ
สิ่งนี้สำคัญมากๆ ไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เลยครับ การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้สมองของเราได้ฟื้นฟู มีพลังงานในการเรียนรู้และจดจำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น สมาธิก็ดีขึ้นด้วย การอดนอนหรือนอนไม่พอจะส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพในการเรียนและการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น อย่าลืม
จัดสรรเวลา สำหรับการนอนหลับให้เพียงพอในตารางเวลาวันหยุด ของเราด้วยนะครับ
บทบาทของคุณพ่อคุณแม่: เป็นโค้ชให้ลูก “จัดการเวลาวันหยุด”
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ บทบาทที่สำคัญที่สุดคือการเป็น "โค้ช" หรือ "พี่เลี้ยง" ที่คอยสนับสนุนและให้กำลังใจลูกนะครับ ไม่ใช่การบังคับหรือควบคุมทุกอย่าง ลองมาดูกันว่าคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูก
-
เป็นผู้ฟังที่ดี: ชวนลูกมานั่งคุยถึงแผนการในวันหยุด ฟังความคิดเห็นและความต้องการของลูก เปิดโอกาสให้ลูกได้เล่าถึงสิ่งที่กังวลหรืออยากทำ การรับฟังจะทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และอยากทำตามแผนที่วางไว้มากขึ้น
-
เป็นที่ปรึกษา: ช่วยกัน
วางแผนวันหยุด แต่อย่าออกคำสั่งหรือบังคับให้ทำตามทุกอย่าง คุณพ่อคุณแม่สามารถให้คำแนะนำ หรือชี้แนะแนวทางได้ แต่อิสระในการตัดสินใจส่วนหนึ่งควรเป็นของน้องๆ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้การตัดสินใจด้วยตัวเอง -
เป็นตัวอย่างที่ดี: คุณพ่อคุณแม่เองก็สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีในการ
จัดการเวลาวันหยุด ได้นะครับ การที่ลูกเห็นคุณพ่อคุณแม่มีตารางเวลาส่วนตัวที่ชัดเจน ทำกิจกรรมต่างๆ อย่างเป็นระบบ จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและปลูกฝังวินัยให้กับลูกได้เป็นอย่างดี -
เป็นกำลังใจสำคัญ: เมื่อลูกทำตามแผนที่วางไว้ได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ก็ควรให้คำชมเชยและให้กำลังใจเสมอ การเห็นคุณค่าในความพยายามของลูกจะทำให้ลูกมีกำลังใจที่จะทำต่อไป แต่หากมีบางวันที่พลาดไปบ้าง ก็ไม่ควรตำหนิหรือกดดัน ให้กำลังใจและช่วยกันหาสาเหตุ เพื่อปรับปรุงในครั้งต่อไปจะดีกว่าครับ
สรุป: จัดการเวลาวันหยุดไม่ใช่เรื่องยาก แค่เริ่มต้น!
น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่คงพอจะเห็นแล้วนะครับว่าการ
จำไว้นะครับว่าวันหยุดเป็นช่วงเวลาสำคัญที่น้องๆ จะได้ "ชาร์จพลัง" ได้ทำกิจกรรมที่ชอบ และที่สำคัญคือได้ "ติวเข้ม" เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบเข้า ม.1 ด้วย การที่เราสามารถ
พี่ๆ TidMor1 เชื่อว่าน้องๆ ทุกคนทำได้แน่นอนครับ! ค่อยๆ เริ่ม ค่อยๆ ปรับ ลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ แล้วน้องๆ จะพบว่าการ
และหากการวางแผนนี้ทำให้น้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าการตะลุยโจทย์วิทยาศาสตร์คือสิ่งสำคัญ ทีมงาน TidMor1 ขอแนะนำ "ข้อสอบเข้า ม.1 วิทยาศาสตร์ 3,000 ข้อ" ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสร้างความคุ้นเคยกับแนวข้อสอบที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ TidMor1.com นะครับ