การใช้สัญลักษณ์และตัวย่อส่วนตัวในการจดโน้ต

เขียนโดย: ทีมงาน TidMor1 | เผยแพร่เมื่อ: 12 ตุลาคม 2568

เทคนิคการจดโน้ต เตรียมสอบเข้า ม.1 การเรียน

น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่เคยรู้สึกแบบนี้ไหมครับ? เวลาอยู่ในห้องเรียน คุณครูสอนเร็วมาก เนื้อหาก็เยอะ พยายามตั้งใจจดทุกคำพูด แต่สุดท้ายก็จดไม่ทัน พอจะกลับมาอ่านทบทวน ก็ตาลายไปหมดกับตัวหนังสือที่เรียงกันเป็นพรืด หรือบางทีก็อ่านลายมือตัวเองไม่ออกซะงั้น... ปัญหานี้เป็นเรื่องที่พี่ๆ TidMor1 เข้าใจดีมากๆ เลยครับ

แต่ไม่ต้องกังวลไปนะครับ! วันนี้พี่ๆ มี "อาวุธลับ" ที่จะมาช่วยให้น้องๆ จดเลคเชอร์ได้เร็วขึ้น สนุกขึ้น และจำเนื้อหาได้แม่นยำขึ้น นั่นก็คือ การใช้สัญลักษณ์และตัวย่อส่วนตัวในการจดโน้ต ครับ มันเหมือนกับการสร้าง "โค้ดลับ" ของตัวเองขึ้นมา ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดเวลา แต่ยังช่วยให้สมองของเราได้คิดและจัดระเบียบข้อมูลไปในตัวด้วย ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าเทคนิคนี้จะเปลี่ยนการเรียนของน้องๆ ให้ง่ายขึ้นได้อย่างไร

ทำไมการจดโน้ตแบบเดิมๆ ถึงอาจไม่เหมาะกับเรา?

ก่อนอื่นเรามาคุยกันก่อนว่า ทำไมการพยายามจดทุกอย่างที่คุณครูพูดถึงไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดเสมอไป น้องๆ ลองนึกภาพตามนะครับ สมองของเราไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทำงานเหมือนเครื่องถ่ายเอกสาร การพยายามจดทุกคำพูดแบบคำต่อคำ ทำให้เราใช้สมาธิไปกับการเขียนจนไม่มีเวลาคิดตามหรือทำความเข้าใจเนื้อหาจริงๆ

นอกจากนี้ ความเร็วในการเขียนของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน บางคนอาจจะเขียนช้า ทำให้พลาดประเด็นสำคัญๆ ไป หรือบางคนอาจจะเหนื่อยกับการจดเยอะๆ จนทำให้รู้สึกว่าการเรียนเป็นเรื่องน่าเบื่อ การที่จดไม่ทันเพื่อน ไม่ได้แปลว่าเราเรียนไม่เก่งนะครับ แต่มันเป็นสัญญาณว่าเราอาจจะต้องหา เทคนิคการจดโน้ต ที่เหมาะกับสไตล์ของเรามากขึ้นต่างหาก

พลังของ "โค้ดลับส่วนตัว": ข้อดีของการใช้สัญลักษณ์และตัวย่อ

การสร้างระบบสัญลักษณ์และตัวย่อของตัวเองเปรียบเสมือนการอัปเกรดสมุดโน้ตธรรมดาๆ ให้กลายเป็นเครื่องมือช่วยจำชั้นยอดเลยล่ะครับ มาดูกันว่ามันมีข้อดีอะไรบ้าง

ประหยัดเวลา จดทันทุกประเด็นสำคัญ

นี่คือข้อดีที่เห็นได้ชัดที่สุดเลยครับ ลองคิดดูว่าระหว่างเขียนคำว่า "เพราะฉะนั้น" กับการเขียนสัญลักษณ์ "∴" แบบไหนจะเร็วกว่ากัน? หรือการเขียนคำว่า "สำคัญมาก" เทียบกับการวาดดาว `*` หรือเครื่องหมายตกใจ `!` ไว้ข้างๆ การลดจำนวนตัวอักษรที่ต้องเขียนลง จะทำให้น้องๆ มีเวลาเงยหน้าขึ้นมาฟังคุณครู มีเวลาคิดตาม และเลือกจดเฉพาะใจความสำคัญได้ทันท่วงที

เพิ่มความจำ ทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางทีเราจำเนื้อหาที่จดไม่ค่อยได้? นั่นเพราะการจดแบบลอกตามเฉยๆ เป็นการเรียนรู้แบบรับมาอย่างเดียว (Passive Learning) แต่เมื่อเราเริ่มคิดว่าจะใช้สัญลักษณ์หรือตัวย่ออะไรแทนคำไหนดี กระบวนการนี้จะกระตุ้นให้สมองต้อง "ประมวลผล" และ "แปลงข้อมูล" ซึ่งเป็นการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ทำให้เราเข้าใจและจดจำเนื้อหาได้ดีและยาวนานยิ่งขึ้นครับ

โน้ตสรุปมีสีสัน น่าอ่าน ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

สมุดที่เต็มไปด้วยตัวหนังสือสีเดียวกันหมด อาจทำให้เรารู้สึกท้อใจที่จะหยิบขึ้นมาอ่าน แต่ถ้าในสมุดโน้ตของเรามีสัญลักษณ์น่ารักๆ มีรูปวาดง่ายๆ ประกอบ มันจะเปลี่ยนสมุดเล่มเดิมให้ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที การจดโน้ตจะกลายเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์และสนุกสนาน ซึ่งจะช่วยสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนและการทบทวนบทเรียนได้ด้วย

มาสร้าง "คลังแสง" สัญลักษณ์และตัวย่อฉบับตัวเองกัน!

เอาล่ะ! ถึงเวลาลงมือปฏิบัติกันแล้ว การสร้างระบบโค้ดลับของตัวเองไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลยครับ พี่ๆ มีหลักการและไอเดียมาแนะนำให้น้องๆ เอาไปปรับใช้กันได้ทันที

หลักการพื้นฐาน: ง่าย จำได้ ใช้คล่อง

หัวใจสำคัญของการสร้างระบบนี้คือความเรียบง่ายครับ

  • ต้องง่าย: สัญลักษณ์ที่เลือกใช้ควรวาดง่าย เขียนเร็ว ไม่ซับซ้อนจนเกินไป ไม่งั้นจะกลายเป็นเสียเวลามากกว่าเดิม
  • ต้องจำได้: เลือกสัญลักษณ์ที่สื่อความหมายกับเราโดยตรง หรือเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป จะได้ไม่ต้องเสียเวลานึกนาน
  • ต้องใช้คล่อง: ความสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อกำหนดแล้วว่าสัญลักษณ์นี้แทนคำไหน ก็ควรใช้สัญลักษณ์นั้นตลอด เพื่อให้เกิดความเคยชิน
  • สร้างคีย์ (Key): ในช่วงแรกๆ แนะนำให้ทำ "หน้าสารบัญสัญลักษณ์" ไว้ที่หน้าแรกของสมุดโน้ตแต่ละวิชาเลยครับ ติด Post-it ไว้ก็ได้ ถ้าลืมเมื่อไหร่ก็เปิดกลับมาดูได้ทันที

ไอเดียสัญลักษณ์พื้นฐานที่เอาไปใช้ได้ทันที

นี่คือตัวอย่างสัญลักษณ์สากลที่น้องๆ สามารถหยิบไปใช้ในการจดโน้ตได้เลย เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากครับ

  • (ลูกศร) แทนคำว่า: ทำให้เกิด, นำไปสู่, ผลลัพธ์คือ
  • (จุดสามจุดหัวคว่ำ) แทนคำว่า: เพราะว่า, เนื่องจาก
  • (จุดสามจุดหัวตั้ง) แทนคำว่า: ดังนั้น, สรุปได้ว่า
  • = (เท่ากับ) แทนคำว่า: คือ, เหมือนกัน, มีค่าเท่ากับ
  • (ไม่เท่ากับ) แทนคำว่า: ไม่ใช่, แตกต่าง, ไม่เหมือนกัน
  • + (บวก) แทนคำว่า: และ, กับ, เพิ่มเติม
  • * หรือ ! (ดาว หรือ ตกใจ) แทนคำว่า: สำคัญมาก, ต้องจำ, ออกสอบแน่!
  • ? (คำถาม) แทนคำว่า: ยังไม่เข้าใจ, ต้องหาข้อมูลเพิ่ม, สงสัย
  • Δ (เดลต้า) แทนคำว่า: การเปลี่ยนแปลง
  • / (ลูกศรขึ้น/ลง) แทนคำว่า: เพิ่มขึ้น / ลดลง

ตัวอย่างการสร้างตัวย่อในวิชาต่างๆ

นอกจากการใช้สัญลักษณ์แล้ว การใช้ตัวย่อ ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ทรงพลังมาก ลองดูตัวอย่างตามรายวิชาเหล่านี้ได้เลย

  • วิชาวิทยาศาสตร์: วท. (วิทยาศาสตร์), ฟิสิกส์Phy, ชีวะBio, เคมีChem, ระบบนิเวศสนว., การสังเคราะห์ด้วยแสงสส.
  • วิชาคณิตศาสตร์: คณ. (คณิตศาสตร์), สมการสมก., พื้นที่พท., ปริมาตรปม., ความน่าจะเป็นค.น.จ.ป.
  • วิชาภาษาไทย: พยัญชนะพย., สระสร., วรรณยุกต์วย., คำนามน., คำกริยาก., คำวิเศษณ์ว.
  • วิชาสังคมศึกษา: ปวศ. (ประวัติศาสตร์), ภมศ. (ภูมิศาสตร์), ศก. (เศรษฐกิจ), ปชต. (ประชาธิปไตย), อย. (อยุธยา), สก. (สุโขทัย)
  • วิชาภาษาอังกฤษ: b/c (because), w/ (with), w/o (without), e.g. (for example), info (information), vs (versus)

ข้อควรระวังในการใช้ "โค้ดลับ" ของเรา

แม้ว่าเทคนิคนี้จะมีประโยชน์มาก แต่ก็มีข้อควรระวังเล็กน้อยที่อยากฝากไว้ครับ

อย่าใช้เยอะเกินไป: ในช่วงแรกให้เริ่มจากสัญลักษณ์และตัวย่อที่ใช้บ่อยๆ ก่อน ถ้าเราสร้างโค้ดลับเยอะเกินไปในคราวเดียว อาจจะทำให้สับสนและลืมได้ง่ายๆ ครับ

แยกให้ออก: ต้องแน่ใจว่าสัญลักษณ์แต่ละตัวที่เราสร้างขึ้นมานั้นดูแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนตอนกลับมาอ่านทบทวน

ใช้ให้ถูกที่: สิ่งสำคัญที่สุดคือ การใช้สัญลักษณ์และตัวย่อส่วนตัวในการจดโน้ต นี้เหมาะสำหรับ "สมุดโน้ตส่วนตัว" ของเราเท่านั้นนะครับ ห้ามนำไปใช้ในการเขียนตอบข้อสอบที่เป็นข้อเขียน หรือการบ้านที่ต้องส่งคุณครูเด็ดขาด (ยกเว้นคุณครูจะอนุญาต) เพราะอาจจะทำให้โดนหักคะแนนได้ครับ

สุดท้ายนี้ พี่ๆ อยากจะบอกว่าการเรียนรู้ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว การจดโน้ตก็เช่นกันครับ การลองผิดลองถูกเพื่อหาวิธีที่ "ใช่" สำหรับตัวเอง คือส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่ความสำเร็จ น้องๆ ไม่จำเป็นต้องทำเหมือนเพื่อนทุกคน แค่หาสไตล์ที่ทำให้เราเรียนอย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพก็พอแล้ว

การเริ่มต้นอาจจะรู้สึกติดขัดบ้างในช่วงแรก แต่เมื่อฝึกฝนไปเรื่อยๆ น้องๆ จะพบว่าตัวเองสามารถจดโน้ตได้เร็วขึ้นมาก และการทบทวนก่อนสอบจะกลายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคยเป็นมา ขอให้น้องๆ ทุกคนสนุกกับการสร้าง "โค้ดลับ" และมีความสุขกับการเรียนในทุกๆ วันนะครับ!

และหากการวางแผนนี้ทำให้น้องๆ หรือคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าการตะลุยโจทย์วิทยาศาสตร์คือสิ่งสำคัญ ทีมงาน TidMor1 ขอแนะนำ "ข้อสอบเข้า ม.1 วิทยาศาสตร์ 3,000 ข้อ" ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการสร้างความคุ้นเคยกับแนวข้อสอบที่หลากหลาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ TidMor1.com นะครับ